Home

Sun Ray & Monsoon

อาคารรูปทรงแปลกตาที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นจากบริบทรอบด้าน ดูแตกต่างจากบ้านทั่วไปทั้งด้วยการใช้เส้นสาย เหลี่ยม มุม และพื้นผิวภายนอกอาคารที่เป็นผนังคอนกรีตเปลือยและผนังปูนฝังกรวดในสไตล์ Brutalism

เมื่อทราบว่าอาคารหลังนี้เป็นบ้านของคุณชารีฟ ลอนา Design Director และเจ้าของ Studio Act of Kindness ที่สร้างผลงานเอาไว้มากมายทั้งงาน residence และ commercial ให้กับหลากหลายแบรนด์ อาทิ Sretsis, Greyhound, Panpuri, Comma and ซึ่งทำให้เราไม่แปลกใจกับดีไซน์สุดล้ำของตัวบ้าน หากเมื่อก้าวเข้าสู่ด้านในเราก็ต้องรู้สึกเซอร์ไพรส์กับความโปร่งโล่งและแสงธรรมชาติจากหน้าต่างกระจกที่สูงจรดชั้นบนสุดในทิศด้านหลังของบ้าน แถมยังดารดาษด้วยชิ้นงานศิลปะทั้งขนาดใหญ่เล็กจนดูราวกับเป็นอาร์ตแกลเลอรี่ขนาดย่อมๆ

เมื่อทราบว่าอาคารหลังนี้เป็นบ้านของคุณชารีฟ ลอนา Design Director และเจ้าของ Studio Act of Kindness ที่สร้างผลงานเอาไว้มากมายทั้งงาน residence และ commercial ให้กับหลากหลายแบรนด์ อาทิ Sretsis, Greyhound, Panpuri, Comma and

อาคารสไตล์ Brutalism แต่ contrast ด้วยชิ้นส่วนขอบปูนปั้นสไตล์โรแมนติกที่ทำไว้ให้นกเกาะ
อาคารสไตล์ Brutalism แต่ contrast ด้วยชิ้นส่วนขอบปูนปั้นสไตล์โรแมนติกที่ทำไว้ให้นกเกาะ
อาคารสไตล์ Brutalism แต่ contrast ด้วยชิ้นส่วนขอบปูนปั้นสไตล์โรแมนติกที่ทำไว้ให้นกเกาะ
อาคารสไตล์ Brutalism แต่ contrast ด้วยชิ้นส่วนขอบปูนปั้นสไตล์โรแมนติกที่ทำไว้ให้นกเกาะ

ซึ่งทำให้เราไม่แปลกใจกับดีไซน์สุดล้ำของตัวบ้าน หากเมื่อก้าวเข้าสู่ด้านในเราก็ต้องรู้สึกเซอร์ไพรส์กับความโปร่งโล่งและแสงธรรมชาติจากหน้าต่างกระจกที่สูงจรดชั้นบนสุดในทิศด้านหลังของบ้าน แถมยังดารดาษด้วยชิ้นงานศิลปะทั้งขนาดใหญ่เล็กจนดูราวกับเป็นอาร์ตแกลเลอรี่ขนาดย่อมๆ

ความนุ่มนวลของม่านโปร่งช่วยลดทอนความหนักของผนังและกรองแสงจากภายนอก
ความนุ่มนวลของม่านโปร่งช่วยลดทอนความหนักของผนังและกรองแสงจากภายนอก

“เบื้องต้นของแรงบันดาลใจคือเราเจอที่ผืนนี้ตอนหน้าฝน เลยอยากทำบ้านที่ให้ฟีลเหมือนฝนตกตลอดเวลา เลยเรียกที่นี่ว่า Monsoon House จริงๆด้วยตัวอาคารอยากจะทำอะไรให้มันสะท้อนความเป็นตัวเรา ผมเป็นคนที่ดูจากภายนอกแล้วค่อนข้างจะดูปิด อาจจะดูบล็อก ปิดตัวเองกับคนอื่น แต่คนที่สนิทจะรู้ว่าภายในจริงๆแล้วผมเป็นคนเปิดเผย เลยออกมาเป็นรูปแบบอาคารที่ข้างนอกปิดทึบ ดูเหมือนป้อมปราการ

“เบื้องต้นของแรงบันดาลใจคือเราเจอที่ผืนนี้ตอนหน้าฝน เลยอยากทำบ้านที่ให้ฟีลเหมือนฝนตกตลอดเวลา เลยเรียกที่นี่ว่า Monsoon House จริงๆด้วยตัวอาคารอยากจะทำอะไรให้มันสะท้อนความเป็นตัวเรา 

เหล่าชิ้นงานศิลปะและของตกแต่งบ้านมาจากการสะสมหลายปี
เหล่าชิ้นงานศิลปะและของตกแต่งบ้านมาจากการสะสมหลายปี

ผมเป็นคนที่ดูจากภายนอกแล้วค่อนข้างจะดูปิด อาจจะดูบล็อก ปิดตัวเองกับคนอื่น แต่คนที่สนิทจะรู้ว่าภายในจริงๆแล้วผมเป็นคนเปิดเผย เลยออกมาเป็นรูปแบบอาคารที่ข้างนอกปิดทึบ ดูเหมือนป้อมปราการ

มองผ่านห้องรับประทานอาหารจะเห็นเตาผิงขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นเตาย่างสำหรับปาร์ตี้
มองผ่านห้องรับประทานอาหารจะเห็นเตาผิงขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นเตาย่างสำหรับปาร์ตี้
แต่ข้างในมีความ expose และ transparent ก็ตั้งใจทำบ้านให้เป็น void สูงๆ ทะลุขึ้นไป3 ชั้น และพยายามจะดึงแสงลงมาให้ครบทุกชั้น ด้านบนก็มีช่องแสง และอยากให้การเคลื่อนไหวในบ้าน สามารถมองเห็นสิ่งแวดล้อมรอบๆ ได้ ตัวบันไดก็ตั้งใจให้เป็นเหมือนงาน sculpture ของบ้าน ซึ่งเป็นทรงที่แขวนอยู่โดยไม่มีเสา ต่างจากบันไดอื่นที่จะมีแผงตรงกลาง”

แต่ข้างในมีความ expose และ transparent ก็ตั้งใจทำบ้านให้เป็น void สูงๆ ทะลุขึ้นไป3 ชั้น และพยายามจะดึงแสงลงมาให้ครบทุกชั้น ด้านบนก็มีช่องแสง และอยากให้การเคลื่อนไหวในบ้าน สามารถมองเห็นสิ่งแวดล้อมรอบๆ ได้ 

ผนังหินและพื้นในบ้านใช้แผ่นหินขนาดใหญ่ สร้างความแตกต่างจากภายนอก
ผนังหินและพื้นในบ้านใช้แผ่นหินขนาดใหญ่ สร้างความแตกต่างจากภายนอก

ตัวบันไดก็ตั้งใจให้เป็นเหมือนงาน sculpture ของบ้าน ซึ่งเป็นทรงที่แขวนอยู่โดยไม่มีเสา ต่างจากบันไดอื่นที่จะมีแผงตรงกลาง” 

เมื่อถามถึงเรื่องสไตล์ ชารีฟบอกกับ QoQoon ว่า “จริงๆแล้ว ผมชอบสไตล์ Brutalism ที่สุดแต่ไม่เคยมีโอกาสได้ดีไซน์ให้กับลูกค้า เพราะมันค่อนข้างจะหนักหน่วงเกินไป และผมชอบ sense ของความ Romanticism ซึ่ง contrast กัน ก็เลยเอามาใช้กับบ้านตัวเอง เป็นภาษาของความดิบผสมความเนี้ยบ”

ห้องทำงานภายในห้องนอนที่หันสู่ภายในบ้านกรุกระจกใสช่วยสร้างความโปร่งโล่งและดึงแสงได้มากขึ้น
ห้องทำงานภายในห้องนอนที่หันสู่ภายในบ้านกรุกระจกใสช่วยสร้างความโปร่งโล่งและดึงแสงได้มากขึ้น

ถึงแม้จะเปิดโล่ง หากแสงที่สาดส่องเข้ามาในตัวบ้านก็ถูกกรองด้วยต้นไม้ภายนอกและเงาของตัวอาคาร ทำให้ได้แสงกำลังดี ไม่จ้าจนเกินไป รวมทั้งอุณหภูมิภายในห้องก็ไม่ร้อน ทำให้แทบไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ ด้านข้างของตัวบ้านเป็นสระน้ำที่ดูสวยเป็นพิเศษจากต้นไม้ซึ่งเอนลู่ลงสู่ผิวน้ำ ที่นั่งสำหรับสังสรรค์ 

ประตูเปิดไปสู่สวนด้านข้างและสระน้ำที่ยังรอประติมากรรมชิ้นใหญ่มาจัดวาง
ประตูเปิดไปสู่สวนด้านข้างและสระน้ำที่ยังรอประติมากรรมชิ้นใหญ่มาจัดวาง

รายรอบด้วยผนังปูนขรุขระเป็นหนามแหลมเล็กที่คุณชารีฟบอกกับเราว่าช่างที่ทำจะต้องใส่ถุงมือแล้วจ้วงปูนทีละหย่อม “โดยส่วนตัวผมชอบสีเทา ก็มานั่งไล่ตัววัสดุว่าสีเทามีวัสดุอะไรบ้าง ไล่เฉดโทนสีเทา ดำ ทำเป็น palette และก็ดูสเกลที่ควรใช้ เลยออกมาเป็นหินขัดบ้าง กระเบื้อง ปูนฉาบเรียบ ไปจนถึงการตกแต่งด้วยหิน คือทุกอย่างโดนคุมโทนด้วยสี

ผนังปูนใช้การใส่ถุงมือจ้วงทีละจุด ผนังฝังกรวดใช้การแปะกรวดทีละเม็ดแทนการสกัดเพื่อลดฝุ่น
ผนังปูนใช้การใส่ถุงมือจ้วงทีละจุด ผนังฝังกรวดใช้การแปะกรวดทีละเม็ดแทนการสกัดเพื่อลดฝุ่น

และสีอื่นที่เข้ามาแจมได้บ้างคือสีเขียวเพราะด้านนอกเป็นสวนก็อยากจะดึงเข้ามา 

ต้นไม้ทรงสวยที่คัดรูปฟอร์มมาโดยเฉพาะ
ต้นไม้ทรงสวยที่คัดรูปฟอร์มมาโดยเฉพาะ

และอยากให้มีหลาย texture ก็เลยใช้หลายเทคนิคผสมผสานกัน” 

เหล่าวัสดุธรรมชาติที่อยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืน
เหล่าวัสดุธรรมชาติที่อยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืน

ชั้นล่างของบ้านเป็นห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องกินข้าว

ชั้น 2 เป็นห้องนอนบวกห้องทำงานของคุณชารีฟ ห้องนอนของคุณแม่ 

บางจุดในบ้านให้ฟีลเหมือนปราสาทจากยุคกลาง
บางจุดในบ้านให้ฟีลเหมือนปราสาทจากยุคกลาง
คุณชารีฟเล่าว่าต้องการให้จุดพักบันไดเป็นจุดที่ยืนแล้วมองเห็นทุกอย่างรอบตัว
คุณชารีฟเล่าว่าต้องการให้จุดพักบันไดเป็นจุดที่ยืนแล้วมองเห็นทุกอย่างรอบตัว
ห้องนอนของคุณชารีฟ
ห้องนอนของคุณชารีฟ

และชั้น 3 เป็นห้องนอนของสมาชิกคนอื่นๆในครอบครัว และห้องสมุดขนาดใหญ่ใต้หลังคาทรงจั่วที่สว่างสดใส “จากด้านล่างที่มีความ Monsoon ผมอยากให้ชั้นบนสุดเป็นการเปิดรับแสงแดดให้เต็มที่ มู้ดโทนก็เลยเปลี่ยนไป ไล่ระดับขึ้นมา และพวก element ต่างๆ ก็ได้แรงบันดาลใจจากสไตล์เตอร์กิชที่นำมาลดทอน เปลี่ยนแปลงรูปแบบ อยากจะให้เป็นเหมือนห้องสมุดจริงๆ เพราะคนในบ้านทุกคนเป็นสายวิชาการ”

และชั้น 3 เป็นห้องนอนของสมาชิกคนอื่นๆในครอบครัว และห้องสมุดขนาดใหญ่ใต้หลังคาทรงจั่วที่สว่างสดใส “จากด้านล่างที่มีความ Monsoon ผมอยากให้ชั้นบนสุดเป็นการเปิดรับแสงแดดให้เต็มที่ มู้ดโทนก็เลยเปลี่ยนไป ไล่ระดับขึ้นมา 

ห้องสมุดใต้หลังคาทรงจั่ว มีระเบียงขนาดใหญ่และช่องแสง
ห้องสมุดใต้หลังคาทรงจั่ว มีระเบียงขนาดใหญ่และช่องแสง

และพวก element ต่างๆ ก็ได้แรงบันดาลใจจากสไตล์เตอร์กิชที่นำมาลดทอน เปลี่ยนแปลงรูปแบบ  อยากจะให้เป็นเหมือนห้องสมุดจริงๆ เพราะคนในบ้านทุกคนเป็นสายวิชาการ”  

เฟอร์นิเจอร์ และตู้บิลด์อินดูราวกับมาจากคนละยุคหากอยู่ด้วยกันอย่างลงตัว
เฟอร์นิเจอร์ และตู้บิลด์อินดูราวกับมาจากคนละยุคหากอยู่ด้วยกันอย่างลงตัว

“ส่วนใหญ่แล้วผมได้รับแรงบันดาลใจจาก Fine Art ชอบดูภาพวาด โดยเฉพาะยุคโรแมนติก เลยนำมาถอดความและตีความในมุมแบบเรา กลายเป็นการผสมผสานสไตล์ต่างๆ เข้าด้วยกัน ด้วยความเป็น Brutalism จะมีความหนักด้วย mass หรือเทคนิคที่ใช้ แต่การจัดวางของผมคือพยายามจะมองสเปซทุกอย่างในบ้านเป็นภาพวาด หรือจัด composition ที่แฝงความโรแมนติก ทำให้บ้านมี movement แต่อยู่บนความแข็ง เช่นพอเปิดหน้าต่างลมก็พัดม่านพลิ้วไหวตัดกับความแข็งของผนังคอนกรีต หรือเงาของพรายน้ำจากแสงแดดสะท้อนผิวน้ำ รวมไปถึงการจัดวางชิ้นงาน sculpture ต่างๆ ก็เหมือนกับ object ในภาพวาด ตอนที่ออกแบบผมคิดกลับไปกลับมา ทั้งในฐานะดีไซเนอร์และผู้อยู่อาศัย คือเราอยากได้ statement อยู่แล้ว เพื่อให้มีความเป็นตัวตนของเราจริงๆ และการใช้พื้นที่ในฐานะคนที่อาศัยอยู่จริงๆ เช่นกัน”

“พอเข้ามาอยู่ ก็รู้สึกว่าที่นี่เป็นที่ๆเป็นของเราจริงๆ ตอบโจทย์ที่ตัวเองต้องการและเป็น Safe Zone ของเรา เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งส่วนมากผมออกแบบเองหรือของที่ซื้อ สะสมมาตลอดหลายปี อย่างเวลาไปต่างประเทศก็ชอบไปเดินดูตลาด ซื้อของเก่าของแอนทีคมา ผมชอบของเก่าที่มีความ worn out บ้างไม่ใช่ใหม่เนี้ยบจนดูเหมือนโชว์รูม”

“ส่วนใหญ่แล้วผมได้รับแรงบันดาลใจจาก Fine Art ชอบดูภาพวาด โดยเฉพาะยุคโรแมนติก เลยนำมาถอดความและตีความในมุมแบบเรา กลายเป็นการผสมผสานสไตล์ต่างๆ เข้าด้วยกัน ด้วยความเป็น Brutalism จะมีความหนักด้วย mass หรือเทคนิคที่ใช้ แต่การจัดวางของผมคือพยายามจะมองสเปซทุกอย่างในบ้านเป็นภาพวาด หรือจัด composition ที่แฝงความโรแมนติก ทำให้บ้านมี movement แต่อยู่บนความแข็ง เช่นพอเปิดหน้าต่างลมก็พัดม่านพลิ้วไหวตัดกับความแข็งของผนังคอนกรีต หรือเงาของพรายน้ำจากแสงแดดสะท้อนผิวน้ำ 

ระเบียงเหล็กลวดลายได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะตะวันตก
ระเบียงเหล็กลวดลายได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะตะวันตก

รวมไปถึงการจัดวางชิ้นงาน sculpture ต่างๆ ก็เหมือนกับ object ในภาพวาด ตอนที่ออกแบบผมคิดกลับไปกลับมา ทั้งในฐานะดีไซเนอร์และผู้อยู่อาศัย คือเราอยากได้ statement อยู่แล้ว เพื่อให้มีความเป็นตัวตนของเราจริงๆ และการใช้พื้นที่ในฐานะคนที่อาศัยอยู่จริงๆ เช่นกัน”

“พอเข้ามาอยู่ ก็รู้สึกว่าที่นี่เป็นที่ๆเป็นของเราจริงๆ ตอบโจทย์ที่ตัวเองต้องการและเป็น Safe Zone ของเรา เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งส่วนมากผมออกแบบเองหรือของที่ซื้อ สะสมมาตลอดหลายปี อย่างเวลาไปต่างประเทศก็ชอบไปเดินดูตลาด ซื้อของเก่าของแอนทีคมา ผมชอบของเก่าที่มีความ worn out บ้างไม่ใช่ใหม่เนี้ยบจนดูเหมือนโชว์รูม” 

ห้องสมุดมีมู้ดโทนอบอุ่นกว่าชั้นอื่นด้วยความสดใสของแสงแดด
ห้องสมุดมีมู้ดโทนอบอุ่นกว่าชั้นอื่นด้วยความสดใสของแสงแดด

ทุกมุมในตัวบ้านเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ถูกคิดมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นช่องชั้นบนผนัง ประตูลูกฟัก หรือหน้าต่างที่ดูราวกับปราสาทยุโรปในยุคกลาง “ผมชอบงานดีเทลเยอะๆ พอได้ทำบ้านตัวเองเลยปล่อยพลังเต็มที่ให้มีความเป็นเรา ไม่ต้องมีใครมาตัดสินว่าอันนี้ถูกใจหรือไม่ถูกใจ โดยปกติผมชอบสีโมโนโทน ซึ่งคนอาจคิดว่ามันคลาสสิก แต่ส่วนตัวผมมองว่ามันคาดเดายาก บางคนอาจชอบใช้สีดำเป็นยูนิฟอร์มแบบเดิมทุกวัน ส่วนผมชอบสีดำที่มี texture มีความลึกลับ แต่ละดำก็ให้อารมณ์ที่ไม่เหมือนกัน แต่ก็มีสีเขียวหยอดเข้ามา ทุกครั้งที่ผมพยายามออกแบบบ้านหรือสิ่งใดก็ตาม ผมจะพยายามออกแบบให้มันล้ำไปอยู่ข้างหน้า เกินเวลาไปนิดหนึ่ง คือมาก่อนกาล ถ้าในอีก 10 ปีข้างหน้า ผมอาจจะไม่ได้เปลี่ยนอะไรกับบ้านหลังนี้เลยนอกจากเติม element เล็กๆ น้อยๆ แต่ผมคิดว่าใครที่มาเห็นบ้าน ณ วันนี้กับในอนาคตนั้น mindset หรือ perception อาจจะแตกต่างกัน แต่ก็ยังคงความรู้สึกว่าบ้านนี้ไม่เก่าไปกับกาลเวลา”

Story: Titima C.
Photos: Manoo Manookulkit, Santawat Chenpradit
Styling: Whisky Markdee

Share

The house of a designer, Chairf Lona, who has created numerous renowned works for many brands, is extraordinary both from the outside and inside. The two main styles that have been combined are Brutalism and Romanticism, which seemingly do not harmonize but coexist perfectly. Every detail in the house has been carefully thought out, and every room is filled with artwork, making the house resemble an art gallery. The design of this house has been inspired by Brutalism, and interpreted and redefined with elements of Romanticism. While Brutalism is known for its heavy mass and techniques used, Charif has tried to view every space in the house as a painting or a composition that incorporates a touch of romance. This creates movement in the house while still maintaining its solidity, such as when the wind blows, the curtains sway and interact with the solid concrete walls. Additionally, the placement of various sculpture pieces is reminiscent of objects in a painting. “When designing, I constantly oscillate between being a designer and a resident. I wanted to make a statement and have a true sense of identity, as well as making the best use of the space as a genuine resident.

Every time I try to design a house or anything else, I always try to design it to be ahead, beyond current time. If in the next 10 years, I may not change anything about this house except adding some small elements. But I think whoever sees the house today and in the future, the mindset or perception may differ, but there will still be a feeling that this house does not age with time”