Living In A Material World

Editor's Letter

Living In A Material World

เห็นจั่วหัวมาแบบนี้อย่าเพิ่งคิดว่า QoQoon จะชักชวนให้ทุกคนหันมาเป็นสาวกลัทธิ ‘วัตถุนิยม’ ฟู่ฟ่าฟุ้งเฟ้อ คำว่า Material ที่เรากำลังจะพูดถึงในที่นี้ ไม่ได้หมายถึง วัตถุแก้วแหวนเงินทองอย่างที่ว่า หากแต่หมายถึง ‘วัสดุ’ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญพื้นฐานของงานออกแบบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม ผลิตภัณฑ์ ของใช้ ของตกแต่งที่รายล้อมอยู่รอบๆตัวเราในทุกวันของชีวิต โดยเฉพาะภายในบ้านซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นพื้นที่ปลอดภัยและให้ความอบอุ่นกับเรา 

ในศาสตร์และศิลป์ของการออกแบบ วัสดุถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะในการออกแบบทุกอย่างล้วนต้องคำนึงถึงเรื่องของวัสดุเป็นหลัก นักออกแบบต้องเลือกว่าวัสดุไหนที่เหมาะและตอบสนองความต้องการตามโจทย์ของงานออกแบบนั้นๆ และในหลายครั้งที่งานออกแบบเองได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัสดุและใช้คุณสมบัติของวัสดุเป็นตัวกำหนดรูปแบบและทิศทางในการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นสีสันของเนื้อวัสดุที่มองเห็นด้วยสายตา หรือสัมผัสของพื้นผิวเมื่อจับต้อง

เมื่อครั้งที่จะซื้อบ้านของตัวเองเป็นครั้งแรก ผมเดินดูห้องตัวอย่าง ดูพื้นที่ใช้งาน ดูโลเคชั่น ความสะดวกสบาย และรายละเอียดต่างๆที่คนจะซื้อบ้านควรจะคำนึงถึงทั้งหมด ตกลงใจแล้วว่าจะเอาที่นี่แหละ แต่แอบขัดใจอยู่อย่างเดียว คือพื้นห้องที่ปูด้วยแผ่นลามิเนตลายไม้ มันดูแปลกปลอมและขัดหูขัดตา ที่สำคัญคือสัมผัสของฝ่าเท้าบนพื้นลามิเนตที่แสนเรียบลื่นในแต่ละก้าวนั้นมันชวนให้หงุดหงิดเสียเหลือเกิน ผมเลยแจ้งทางโครงการไปว่าขอไม่ปูพื้นลามิเนต เดี๋ยวจะทำพื้นที่ปูด้วยไม้จริงเอง ทางโครงการบอกถึงจะไม่เอาพื้นก็ต้องคิดราคาเต็ม ซึ่งผมก็ยอมที่จะจ่ายราคาเต็ม เพราะเท้ามันไม่ยอมรับจริงๆ อาจจะฟังดูเหมือนดัดจริต แต่ส่วนตัวแล้ว ผมนึกถึงพื้นไม้ของบ้านหลังเก่าที่เคยอยู่กับครอบครัวเมื่อตอนเด็กๆ ซึ่งพื้นบ้านชั้นสองปูด้วยไม้แผ่นใหญ่แบบบ้านคนไทยตามต่างจังหวัดสมัยก่อนทั่วๆไป เวลาเดินแล้วเท้าสัมผัสกับแผ่นไม้เต็มๆ มันให้ความรู้สึกถึงสัมผัสที่วัสดุอื่นไม่สามารถมาทดแทนได้ ตอนหน้าหนาว (ซึ่งสมัยก่อนหนาวจริง) เวลาตื่นนอนตอนเช้าแล้วก้าวเท้าลงจากที่นอนเหยียบลงไปบนพื้นไม้มันก็เย็นวาบจนต้องเขย่งแล้วรีบวิ่งลงบันไดลงไปชั้นล่าง ซึ่งถ้าอาหารจานโปรดในวัยเด็กที่แม่ทำให้กินบ่อยๆเป็น comfort food ของทุกคน พื้นไม้จริง ก็คงเป็น comfort feet ของผม

แล้วตอนที่ปูพื้นไม้ของบ้านตัวเอง ผมกำชับช่างว่าขอไม้แบบไม่ต้องฟินิชชิ่ง ช่างก็จะไม่ยอมทำให้ บอกว่าต้องเคลือบผิว ต้องทำนั่นทำนี่ ตามประสาช่างที่กลัวงานไม่เรียบร้อย แต่ผมก็ยังยืนยันว่าขอเป็นเนื้อไม้จริง เพราะที่เลือกไม้ชนิดนี้เพราะชอบสีของเนื้อไม้ ถ้าไปทำฟินิชชิ่งความงามของเนื้อไม้ที่เราอุตส่าห์เลือกก็จะถูกลดทอนลงไป ถึงช่างจะย้ำว่าถ้าไม่เคลือบนานๆไปไม้มันจะหดนะ …ไม่เป็นไร มันเป็นธรรมชาติของไม้ ปล่อยมันไปเถิด ให้มันได้โชว์ความงามในเนื้อแท้ตามธรรมชาติของมัน ซึ่งนอกจากความพึงใจทางสายตาแล้ว ก็เป็นเรื่องของผิวสัมผัสอีกด้วย เพราะเราต้องเดินเท้าเปล่าบนพื้นนี้ทุกๆวัน ซึ่งเท้าของเราประกอบด้วยเส้นประสาทมากมาย สัมผัสของพื้นใต้ฝ่าเท้าจึงเป็นการรับรู้ถึง ‘พื้นที่’ นั้นๆ แต่ละวัสดุก็ให้ความรู้สึกแตกต่างกันออกไป หินให้ความรู้สึกมั่นคงและปลอดภัย ไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่น เส้นใยธรรมชาติจำพวกป่านให้ความรู้สึกเป็นมิตร ส่วนลามิเนต-ปลอม “เท้าไม่ยอมรับ”

นี่แค่เรื่องของพื้นยังร่ายกันได้ยาวขนาดนี้ ส่วนอื่นๆของบ้าน ข้าวของทุกชิ้นก็มีรายละเอียดแตกต่างกันออกไปตามโจทย์และความต้องการของผู้ใช้งาน ถ้าพูดถึงเรื่องของเท็กซ์เจอร์ วิธีการเลือกวัสดุที่ได้ผลที่สุดนอกจากความสวยงามที่มองเห็นแล้วคือการได้ลองสัมผัสดู ถ้าได้ลูบคลำแล้วถูกใจเป็นอันว่าใช้ได้

สาระสำคัญของ QoQoon ลำดับนี้ จึงเป็นเรื่องของวัสดุเป็นหลัก เราไปเยี่ยมชมบ้านของดีไซเนอร์ที่มีส่วนประกอบของวัสดุและเท็กซ์เจอร์หลากหลายชนิดแต่อยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัวด้วยสัดส่วนที่พอดี ตัวอย่างของงานออกแบบที่เน้นความงามแบบสัจจะวัสดุ รวมไปถึงการนำวัสดุใหม่ๆหรือวัสดุที่ถูกมองข้ามมาใช้ในรูปแบบใหม่ ซึ่งคาดหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายคนในการนำไอเดียต่างๆเหล่านี้ไปเลือกประยุกต์ใช้ตามความเหมาะสม

ผมอาจจะไม่ใช่ตัวแทนของคนทั้งหมดที่ชื่นชอบในงานออกแบบที่เน้นสัจจะวัสดุ โชว์เนื้อวัสดุธรรมชาติ ปราศจากการแต่งแต้ม หลายคนอาจจะชอบวัสดุสังเคราะห์ที่ให้เอฟเฟ็กต์แปลกใหม่ ตื่นตาหรือสัมผัสตื่นใจ รวมไปถึงการอยู่ท่ามกลางสีสันและลวดลายสดใส ซึ่งมันก็เหมือนสาวสวยแต่งหน้าทาปากที่สวยเด่นน่ามอง ดูแล้วดึงดูดสายตาดี แต่บางทีหน้าฉ่ำๆอย่างที่เห็นพอลบเมคอัพออกมาแล้วอาจจะร้องอ้าว การโชว์หน้าสดให้คนได้เห็นความงามของโครงหน้า และสัดส่วนบนใบหน้าที่แท้จริงก็อาจจะสวย สบายตา สบายใจ และมองได้นานกว่า

Wachirapanee Whisky Markdee
Editor In Chief

Share