INSPO

Little Garden

พื้นที่อันแสนจำกัดของที่อยู่อาศัยในยุคปัจจุบัน ส่งผลให้ขนาดและรูปร่างหน้าตาของสวนเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ลองมาทำความรู้จักกับพื้นที่สีเขียวเล็กๆ ในบ้านแบบต่างๆ ที่แม้จะไม่ได้ต้องการพื้นที่ใหญ่โต แต่ก็ใช้ผ่อนคลายสายตาได้ดีไม่แพ้สวนขนาดใหญ่ ที่เปลืองทั้งเวลาและงบประมาณในการดูแล

สวนถาด (Tray Garden)

เป็นการปลูกต้นไม้ขนาดเล็กรวมกันในภาชนะเปิดโล่ง ไม่มีอะไรกั้น ตัวถาดอาจจะมีรูระบายน้ำหรือไม่มีก็ได้ อุปกรณ์ในการทำสวนถาดเป็นของที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านขายอุปกรณ์จัดสวนทั่วๆไป นิยมใช้ปลูกกระบองเพชร กุหลาบหิน ไม้อวบน้ำชนิดต่างๆ หรืออาจจะใช้เลี้ยงไม้กินแมลงต่างๆ ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

เทอราเรียม (Terrarium)

การปลูกต้นไม้ในกล่องใสหรือตู้ปลา แต่ไม่ได้มีส่วนที่เป็นบ่อหรือให้น้ำขังในปริมาณมาก เหมาะสำหรับปลูกต้นไม้จากป่าดิบชื้นขนาดเล็กหลายชนิด เช่น เฟิร์น บิโกเนีย ไม้กินแมลง ที่จริงสวนเทอร์ราเรียมถูกคิดค้นมาตั้งแต่ยุควิคตอเรียนเพื่อเอาไว้เลี้ยงแมลงหรือขนส่งต้นไม้จากแดนไกล เป็นตู้กระจกขนาดค่อนข้างใหญ่ที่กรุด้วยเหล็กพร้อมขาตั้งที่ดัดเป็นลวดลายวิจิตร แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เทอร์ราเรียมส่วนใหญ่ก็ถูกทำในตู้ปลาดีไซน์เรียบๆ มีขนาดไม่ใหญ่โตมากเท่าไหร่นัก

พาลูดาเรียม (Paludarium)

ลักษณะทั่วไปคล้ายเทอราเรียม แต่มีส่วนที่เป็นบกและน้ำแยกกันอย่างชัดเจน ต้นไม้ในตู้แบบนี้ส่วนใหญ่จะเป็นไม้น้ำ หรือต้นไม้ชายน้ำที่ทนต่อความชื้นและน้ำท่วมขังได้ดี เช่น คริป เฟินรากดำ หรือว่านน้ำ บางคนอาจจะเพิ่มการเลี้ยงสัตว์ขนาดเล็กจำพวกแมลงหรือปลาให้มีสีสันและชีวิตชีวา แต่ข้อควรระวังก็คือตู้ลักษณะนี้อาจจะต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำอยู่บ้าง อาจจะไม่ตอบโจทย์สำหรับ คนที่กังวลเรื่องความชื้นภายในห้องและไม่อยากเลอะเทอะ

สวนขวด (Bottle Garden)

สวนขวดเป็นการปลูกต้นไม้ขนาดเล็กที่อยู่ในระบบปิดร้อยเปอร์เซ็นต์ มีฝาปิดเพื่อเก็บรักษาความชื้น และไม่ให้อากาศหมุนเวียนออกด้านนอก แต่ส่วนใหญ่ถ้าใช้ขวดลักษณะนี้ มักจะมีไอน้ำ หรือฝ้า เกาะบริเวณด้านใน มีวิธีแก้ง่ายๆโดยการแง้มฝาเอาไว้เพียงเล็กน้อย หรือหาวิธีเจาะรูเล็กๆให้อากาศหลุดออกมาได้บ้าง สวนขวดใช้ต้นไม้ได้หลากหลายรูปแบบ เน้นที่มีขนาดเล็กและค่อนข้างทนทาน ส่วนใหญ่จะเป็นมอส หรือเฟิร์นจิ๋วๆ  อาจจะใส่ตุ๊กตาขนาดเล็กลงไปประดับและเพิ่มเรื่องราวให้ดูน่ารักยิ่งขึ้น

Story/Photos: Ohm Pavaphon
Share