Home

Under The African Sky

ใต้ผืนฟ้ากว้างไกลที่ทอสีฟ้าล้ำลึกงดงามอย่างเหลือเชื่อ จนแว่วเสียงเพลงจากซาวน์ดแทร็กภาพยนตร์เรื่อง Out Of Africa พัดผ่านมากับสายลม เหมือนมนต์สะกดที่ทำให้หลงใหลไปกับความงามบริสุทธิ์แห่งแอฟริกา

บนผืนดินฝุ่นแดงที่ตลบฟุ้งบางเบาราวกับฉากในภาพยนตร์ คือที่ตั้งของ Shu’mata ที่พักแรมซึ่งเป็นกลุ่มเต็นท์แบบแอฟริกันตะวันออก ซึ่งให้อารมณ์ราวกับพาเราย้อนกลับไปสู่ยุคเก่าที่การเดินทางเต็มไปด้วยการค้นพบโอกาสใหม่ๆและความน่าตื่นเต้น ที่ท้องทุ่งสะวันนาแห่งนี้ เสียงหรีดหริ่งเรไรประสานกับบทเพลงจากฝูงม้าลายและเสียงหัวเราะของไฮยีน่าที่ได้ยินจากที่ใดสักแห่งหนึ่งในระยะไกล

บริเวณเต็นท์แคมป์ของ Shu’mata หันไปสู่ที่ราบ Amboseli และเนินเขา seven sisters ที่ตีนเขาคิลิมันจาโร
บริเวณเต็นท์แคมป์ของ Shu’mata หันไปสู่ที่ราบ Amboseli และเนินเขา seven sisters ที่ตีนเขาคิลิมันจาโร

เป็นส่วนผสมของความรู้และโชคชะตาที่พัดพาให้ Jörg กับ Marlies Gabriel และ Donyo บุตรชาย มาพบกับที่นี่ “ในตอนนั้นเรากำลังมองหาที่ตั้งแคมป์ที่จะแตกสาขาออกมาจากลอดจ์ของเราที่ Hatari” Jörg กล่าว “ที่ตีนเขาคิลิมันจาโร เราขับรถไปรอบๆ และพบกับถนนสองเส้น ผมเลือกเส้นที่ดูไม่ค่อยมีคนเดินทาง” รถเกิดขัดข้องกลางทางและในขณะที่ Jörg ซ่อม Marlies ก็พาลูกชายคนเล็กออกไปเดินเล่น “เราค่อยๆ เดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆ และเมื่อเราขึ้นไปถึงยอด เรามองเห็นโขลงช้างกำลังเล็มหญ้า” Jörg ซ่อมรถเสร็จและตามพวกเขาขึ้นไป “พวกมันอยู่บนชานชาลาธรรมชาติที่ปกคลุมไปด้วยหญ้า ราวกับว่าจุดนี้ถูกสร้างมาเพื่อเราและแผนการของเราสำหรับ Shu’mata (ในภาษามาไซแปลว่า สวรรค์) เราปิกนิกกันที่นั่น ท่ามกลางความงามอันน่าอัศจรรย์” และทุกวันนี้บริเวณผืนหญ้านั้นก็คือที่ตั้งเต็นท์หลักของ Shu’mata ซึ่งเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของ Hemmingway 

เป็นส่วนผสมของความรู้และโชคชะตาที่พัดพาให้ Jörg กับ Marlies Gabriel และ Donyo บุตรชาย มาพบกับที่นี่ “ในตอนนั้นเรากำลังมองหาที่ตั้งแคมป์ที่จะแตกสาขาออกมาจากลอดจ์ของเราที่ Hatari” Jörg กล่าว “ที่ตีนเขาคิลิมันจาโร เราขับรถไปรอบๆ และพบกับถนนสองเส้น ผมเลือกเส้นที่ดูไม่ค่อยมีคนเดินทาง” รถเกิดขัดข้องกลางทางและในขณะที่ Jörg ซ่อม Marlies ก็พาลูกชายคนเล็กออกไปเดินเล่น “เราค่อยๆ เดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆ และเมื่อเราขึ้นไปถึงยอด เรามองเห็นโขลงช้างกำลังเล็มหญ้า” Jörg ซ่อมรถเสร็จและตามพวกเขาขึ้นไป

Marlies กับ Jörg Gabriel และ Donyo ลูกชาย ปิกนิกในทุ่งหญ้าสะวันนาที่ดูราวกับออกมาจากหนังเรื่อง Out of Africa หากแต่นี่คือเรื่องจริง
Marlies กับ Jörg Gabriel และ Donyo ลูกชาย ปิกนิกในทุ่งหญ้าสะวันนาที่ดูราวกับออกมาจากหนังเรื่อง Out of Africa หากแต่นี่คือเรื่องจริง

“พวกมันอยู่บนชานชาลาธรรมชาติที่ปกคลุมไปด้วยหญ้า ราวกับว่าจุดนี้ถูกสร้างมาเพื่อเราและแผนการของเราสำหรับ Shu’mata (ในภาษามาไซแปลว่า สวรรค์) เราปิกนิกกันที่นั่น ท่ามกลางความงามอันน่าอัศจรรย์” และทุกวันนี้บริเวณผืนหญ้านั้นก็คือที่ตั้งเต็นท์หลักของ Shu’mata ซึ่งเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของ Hemmingway

ชาวมาไซกำลังไปเสิร์ฟน้ำชาที่เต็นท์ หนึ่งในเสน่ห์ของที่นี่คือความอ่อนโยนนุ่มนวลของเหล่าชาวมาไซ ผ้าห่ม shuka อันเป็นเครื่องนุ่งห่มของชาวมาไซทำจากผ้าฝ้ายหนาหรือขนสัตว์และมีลวดลายสีสันแจ่มชัดอย่างสีแดง น้ำเงินหรือสีดำ
ชาวมาไซกำลังไปเสิร์ฟน้ำชาที่เต็นท์ หนึ่งในเสน่ห์ของที่นี่คือความอ่อนโยนนุ่มนวลของเหล่าชาวมาไซ ผ้าห่ม shuka อันเป็นเครื่องนุ่งห่มของชาวมาไซทำจากผ้าฝ้ายหนาหรือขนสัตว์และมีลวดลายสีสันแจ่มชัดอย่างสีแดง น้ำเงินหรือสีดำ

“ฉันชอบความรู้สึกแบบการไปซาฟารีในยุค 1920” Marlies กล่าว “เฮมมิงเวย์และเพื่อนอาจจะต้องใช้เวลานานกว่าที่พวกเราใช้ในปัจจุบันเพื่อที่จะมายังแอฟริกา แต่ทั้งหมดนั่นกลับดูสบายๆ และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ฉันอยากให้ Shu’mata สะท้อนความหรูหราที่เรียบง่ายเช่นนั้น”

อาหารเย็นถูกจัดเสิร์ฟกลางแจ้งเพื่อชมวิวของที่ราบซึ่งประจันหน้าเข้าสู่เต็นท์หลัก ผ้า table runner มีลวดลายเกี่ยวกับสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่โดยรอบ
อาหารเย็นถูกจัดเสิร์ฟกลางแจ้งเพื่อชมวิวของที่ราบซึ่งประจันหน้าเข้าสู่เต็นท์หลัก ผ้า table runner มีลวดลายเกี่ยวกับสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่โดยรอบ

เต็นท์หลักของ Shu’mata ถูกแบ่งออกเป็นสามโซน โซนสำหรับดื่มน้ำชาคือบริเวณซึ่งตกแต่งสไตล์โคโลเนียลและเก้าอี้สาน ถัดมาเป็นบริเวณ Dining โต๊ะไม้และเก้าอี้หนังวัวถูกจัดวางอยู่ภายใต้โคมไฟระย้าทำจากคริสตัลและเขาสัตว์ ซึ่ง Marlies บรรยายว่าเป็นสไตล์ ‘บาโรค-ซาฟารี’

เต็นท์หลักของ Shu’mata ถูกแบ่งออกเป็นสามโซน โซนสำหรับดื่มน้ำชาคือบริเวณซึ่งตกแต่งสไตล์โคโลเนียลและเก้าอี้สาน

น้ำชาถูกเสิร์ฟในโซนของสไตล์โคโลเนียล แขกสามารถนั่งพักบนเก้าอี้หวายและชมวิวอันน่าตื่นตาของทุ่งหญ้าสะวันนา
น้ำชาถูกเสิร์ฟในโซนของสไตล์โคโลเนียล แขกสามารถนั่งพักบนเก้าอี้หวายและชมวิวอันน่าตื่นตาของทุ่งหญ้าสะวันนา

ถัดมาเป็นบริเวณ Dining โต๊ะไม้และเก้าอี้หนังวัวถูกจัดวางอยู่ภายใต้โคมไฟระย้าทำจากคริสตัลและเขาสัตว์ ซึ่ง Marlies บรรยายว่าเป็นสไตล์ ‘บาโรค-ซาฟารี’

โต๊ะไม้และเก้าอี้หนังวัวในโซนที่มีสไตล์ บาโรค-ซาฟารี เพดานตกแต่งด้วยแชนเดอเลียร์ขนาดใหญ่ทำจากเขาสัตว์และคริสตัล
โต๊ะไม้และเก้าอี้หนังวัวในโซนที่มีสไตล์ บาโรค-ซาฟารี เพดานตกแต่งด้วยแชนเดอเลียร์ขนาดใหญ่ทำจากเขาสัตว์และคริสตัล

และโซนสุดท้ายคือโซนพักผ่อนหย่อนใจ ไม่ว่าจะเป็นช่วงหลังอาหารหรือเมื่อใดก็ตาม แขกสามารถนั่งเล่นในบรรยากาศ Arabian บนหมอนใบหนาอันเป็นงานฝีมือจากลูกสาวเกษตรกรชาวนามิเบียน ซึ่ง Marlies ได้ผสมผสานการตกแต่งด้วยผ้าวินเทจจากตลาดและงานฝีมือต่างๆ จากชาวมาไซ อาทิ ชิ้นงานตกแต่งจากลูกปัดที่หญิงชาวมาไซทำให้กับเธอโดยเฉพาะ

มุมสไตล์อาหรับซึ่งเหมาะกับการหย่อนใจบนหมอนใบใหญ่และโต๊ะตัวเตี้ย ผ้าที่ใช้ตกแต่งทั้งหมดเป็นผ้าวินเทจที่ Marlies ได้มาจากตลาด
มุมสไตล์อาหรับซึ่งเหมาะกับการหย่อนใจบนหมอนใบใหญ่และโต๊ะตัวเตี้ย ผ้าที่ใช้ตกแต่งทั้งหมดเป็นผ้าวินเทจที่ Marlies ได้มาจากตลาด
มุมที่เหมาะกับการเขียนอย่างที่สุด เต็นท์สำหรับแขกทั้งห้าหลังถูกตกแต่งในสไตล์ซาฟารียุค 1920 แบบเฮมมิงเวย์ ผสมผสานกับการตกแต่งด้วยงานคราฟต์จากชาวมาไซ งานตกแต่งภายในทั้งหมดเป็นฝีมือ Marlies
มุมที่เหมาะกับการเขียนอย่างที่สุด เต็นท์สำหรับแขกทั้งห้าหลังถูกตกแต่งในสไตล์ซาฟารียุค 1920 แบบเฮมมิงเวย์ ผสมผสานกับการตกแต่งด้วยงานคราฟต์จากชาวมาไซ งานตกแต่งภายในทั้งหมดเป็นฝีมือ Marlies

ผืนดินแห่งนี้คือดินแดนมาไซและการตั้งแคมป์หมายถึงการประนีประนอมกับชาวพื้นเมือง ความรู้เกี่ยวกับแอฟริกาของ Jörg นั้น ได้รับมาจากปูมหลังช่วงวัยเด็กซึ่งเขาใช้ชีวิตกับครอบครัวนักการฑูต และแบคกราวน์ดของเขาในฐานะนักภูมิศาสตร์ หมู่บ้านชาวมาไซมักจะสร้างบนที่โล่งซึ่งแพะและแกะของพวกเขาสามารถเล็มหญ้าได้ ดังนั้นแผนของพวกเขาจึงลงตัวพอดีกับข้อตกลงที่จะให้ความช่วยเหลือแก่พวกมาไซมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น การพาคนป่วยไปโรงพยาบาล หรือการมอบงานให้ทำในแคมป์ “พวกเขาอ่อนโยนและมีเสน่ห์” Jörg กล่าว​ “แต่เราอยู่บนแผ่นดินของพวกเขาและเราต้องเข้าใจในสิ่งนั้น”

ภาพของพนักงานชาวมาไซผู้ทำงานที่ Shu’mata สวมใส่ชุดพื้นเมืองคือ shuka สีแดง ที่พักอาศัยของพวกเขาบางคนอาศัยอยู่ไกลจากแคมป์ถึง 2 ชั่วโมงและเขาเดินไปกลับทุกวันเพื่อมาทำงานที่นี่
ภาพของพนักงานชาวมาไซผู้ทำงานที่ Shu’mata สวมใส่ชุดพื้นเมืองคือ shuka สีแดง ที่พักอาศัยของพวกเขาบางคนอาศัยอยู่ไกลจากแคมป์ถึง 2 ชั่วโมงและเขาเดินไปกลับทุกวันเพื่อมาทำงานที่นี่

Marlies ได้หยิบนำเอาแรงบันดาลใจจากผ้าสีแดงอันมีชื่อเรียกว่า shuka ซึ่งเป็นเครื่องนุ่งห่มที่ชาวมาไซใช้พาดพันไว้รอบตัว ไปใช้ในการตกแต่งห้องพัก โดยใช้เป็นผ้าคลุมเตียงที่ถูกปักประดับเพิ่มเติมด้วยลวดลายสัตว์ 

หนึ่งในห้องนอนแขก ตกแต่งด้วยพรมทำมือจากหนังวัว ผ้า shuka คลุมเตียงและสามารถมองเห็นห้องน้ำที่เป็นแบบกึ่งเอาท์ดอร์
หนึ่งในห้องนอนแขก ตกแต่งด้วยพรมทำมือจากหนังวัว ผ้า shuka คลุมเตียงและสามารถมองเห็นห้องน้ำที่เป็นแบบกึ่งเอาท์ดอร์
เหล่ารายละเอียดของเต็นท์ห้องนอน ทั้งปลอกหมอนปักมือ โคมไฟตาข่ายลูกปัดและเฟอร์นิเจอร์สไตล์โคโลเนียล
เหล่ารายละเอียดของเต็นท์ห้องนอน ทั้งปลอกหมอนปักมือ โคมไฟตาข่ายลูกปัดและเฟอร์นิเจอร์สไตล์โคโลเนียล

สำหรับห้องน้ำเอาท์ดอร์ มีส่วนชาวเวอร์โค้งที่ใช้เทคนิก Tadelakt แบบโมร็อคคัน แต่งเติมด้วยสีน้ำตาลแดงและม่านลูกปัดพื้นเมือง ดูตัดกับใจความหลักของการตกแต่งซึ่งดูออกแนว masculine ในสไตล์ Hemmingway แขกที่มาพักที่นี่จะสัมผัสได้ถึงความพิเศษบางอย่างที่สะท้อนอยู่ในงานดีไซน์ทั้งหมด ทั้งความสะดวกสบายที่ได้รับไปพร้อมกับการเติมเต็มจิตวิญญาณนักสำรวจและการผจญภัย 

สำหรับห้องน้ำเอาท์ดอร์ มีส่วนชาวเวอร์โค้งที่ใช้เทคนิก Tadelakt แบบโมร็อคคัน แต่งเติมด้วยสีน้ำตาลแดงและม่านลูกปัดพื้นเมือง

ห้องน้ำกึ่งเอาท์ดอร์ เต็นท์ลูกปัด กระจกและจานตกแต่งเป็นงานฝีมือจากเหล่าหญิงชาวมาไซ
ห้องน้ำกึ่งเอาท์ดอร์ เต็นท์ลูกปัด กระจกและจานตกแต่งเป็นงานฝีมือจากเหล่าหญิงชาวมาไซ

ดูตัดกับใจความหลักของการตกแต่งซึ่งดูออกแนว masculine ในสไตล์ Hemmingway แขกที่มาพักที่นี่จะสัมผัสได้ถึงความพิเศษบางอย่างที่สะท้อนอยู่ในงานดีไซน์ทั้งหมด ทั้งความสะดวกสบายที่ได้รับไปพร้อมกับการเติมเต็มจิตวิญญาณนักสำรวจและการผจญภัย

ห้องฝักบัวเอาท์ดอร์ทรงโค้งเป็นสี terracotta สร้างโดยช่างฝีมือพื้นเมืองซึ่งใช้เทคนิก Tadelakt แบบโมร็อคกัน (คือเทคนิกที่จะเคลือบผนังโดยต้องเลือกใช้ปูนขาวชนิดพิเศษเคลือบบางๆ หลายชั้นบนกำแพงแล้วขัดเงาด้วยเกรียงและหิน)
ห้องฝักบัวเอาท์ดอร์ทรงโค้งเป็นสี terracotta สร้างโดยช่างฝีมือพื้นเมืองซึ่งใช้เทคนิก Tadelakt แบบโมร็อคกัน (คือเทคนิกที่จะเคลือบผนังโดยต้องเลือกใช้ปูนขาวชนิดพิเศษเคลือบบางๆ หลายชั้นบนกำแพงแล้วขัดเงาด้วยเกรียงและหิน)

ที่ Shu’mata แขกผู้เข้าพักยังสามารถไปนั่งรถส่องสัตว์ป่าโดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลอุทยานที่มีประสบการณ์และชาวมาไซเป็นผู้นำทาง เหล่าสัตว์ซึ่งอยู่กันอย่างอิสระตามธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นช้าง ม้าลาย วัวป่าและออริกซ์ รวมไปถึงแมลงสารพัดชนิดและดอกไม้พืชพันธุ์นานาที่ไม่อาจพบได้ที่อื่น และในช่วงแสงสุดท้ายของวันก็เป็นเวลาแห่งการจิบวิสกี้เคล้าวิวอันตระการตาของของที่ราบ Amboseli กลุ่มเนิน Seven Sisters เทือกเขาคิลิมันจาโร Shu’mata ร่ายมนต์ใส่แขกผู้มาเยือนด้วยความทรงจำที่จะคงอยู่ไปตลอดชั่วชีวิต 

Marlies และ Jörg Gabriel กับบุตรชาย Donyo
Marlies และ Jörg Gabriel กับบุตรชาย Donyo

Shu’mata ประเทศ Tanzania
https://hatari.travel/shumata

Production: Martina Hunglinger
Photo: Mads Mogensen
Translate: Titima C.

Share

The towering blue expanse is overwhelming and you are sure that you can hear the soundtrack from the 1985 film Out of Africa. Arriving from a European winter where the sky can seem level with your forehead, you find yourself lost under the sheer power and beauty of an African sky.

Here on a plain, through swirls of cinematic red dust, a cluster of East African tents hark back to the time when travel was filled not with obstacles, but with opportunity and excitement. In the savannah, chirping crickets are joined in song with zebras and, somewhere in the distance, the occasional laughter of the hyena.

It was a mixture of knowledge and luck that brought Jörg and Marlies Gabriel and their son Donyo here. “We were looking for a site to build a camp that would be an offshoot of our lodge in Hatari,” explains Jörg. “At the foot of Kilimanjaro, we drove around and found ourselves facing two roads. I chose the one less travelled.” The car broke down and while Jorge was fixing it, Marlies took her young son for a walk. “We walked slowly up a hill and then as we came over it, we saw a large group of elephants just grazing.” Jorg fixed the car and followed them. “They were on a natural platform, covered with grass. It was as if this spot was waiting and made for us and our plan of Shu’mata (in Masai language it means “heaven”). We ate our picnic there, amidst this incredible beauty.” Today that piece of grass is the site of their main tent at Shu’mata where the spirit of Hemingway is much in evidence.

“I love that whole 1920s safari feeling,” explains Marlies. “Hemingway and his friends might have taken longer to get to Africa than we do today, but it all seemed so effortless and spontaneous when they did it. I wanted Shu’mata to reflect that luxurious simplicity.”

The main tent of Shu’mata is divided into three. Tea is taken in the colonial style area with its wicker chairs while next to it, wooden tables and cowhide chairs sit beneath a striking crystal and horn chandeliers for a dining experience that Marlies describes as ‘baroque-safari.’ After dinner or when the mood strikes them, guests can lounge, Arabian style, on plump cushions. Daughter of a Namibian farmer, Marlies has cleverly combined vintage fabrics found in markets with Masai handcrafted accessories such as the beaded decorations, made for her by the Masai women.

This is Masai land and building the camp meant negotiating with the locals. Jorg’s knowledge of Africa gleaned from his diplomatic childhood and his background, as a geographer was invaluable. “The Masai villages are always built on plains where their goats and sheep can graze as well. Thus, the Gabriel’s plan fitted perfectly as did their agreement to provide as much help to the Masai in the form of helping their sick to hospital and giving them work in the camp. “They are very gentle and charismatic people,” says Jörg, “but we are on their land so we do have to understand that.”

The Masai’s red shukas, worn simply wrapped around their bodies, have found their way into Marlies’ décor where bright, red bedspreads and bed linen inspired by Masai cloth with embroidered elements such as wild animals’ footprints or wildlife adorn the iron beds. For the outdoor bathrooms, Marlies has taken the organic, natural principles of Hundertwasser and created sensuous curved outdoor shower areas using the Moroccan Tadelakt technique. Finished in dusty red-brown colour and adorned with locally made beaded curtains, they contrast with the inherent masculinity – the Hemingway factor – of the décor. Marlies’ understanding of her clientele has resulted in somewhere truly special where guests can enjoy being pampered while giving reign to their inner explorer and hunter.

At Shu’mata, unlike some other parks, the wildlife roams free. Experienced rangers and Masai lead game drives where guests can spot elephants, zebra, wildebeest, and oryx along with curious insects and a profusion of flora not found anywhere else. At the end of a rewarding day it’s time to pour a whiskey and reflect. With stunning vistas of the Amboseli plains, the Seven Sisters and Kilimanjaro to take in before dinner, Shu’mata enchants its guests, providing memories that will last a lifetime.