Home
Living Like The Artist
In Grandfather’s House
บ้านไม้ยกพื้นสีสดใสที่ย่านบางเก่าในมุมเงียบสงบของสมุยหลังนี้ แม้จะไม่ได้หรูหราอย่างวิลล่าหรูทั่วเกาะหรือมีดีไซน์โดดเด่นจนให้เห็นแล้วต้องทึ่ง แต่กลับเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ช่วยจุดประกายแห่งแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คนที่ได้มาพัก ด้วยความมุ่งมั่นของคุณแอ้ มทินา สุขะหุต ผู้ที่ชุบชีวิตบ้านไม้เก่าอายุคราวปู่ให้กลับมามีลมหายใจอีกครั้งเพื่อส่งผ่านแรงบันดาลใจให้กับผู้คนที่ต่างได้แวะเวียนมาพักและสร้างสรรค์งานในฐานะ Artist in Residence
Samui Calling เสน่ห์สมุย
ก่อนอื่น เราขอย้อนเวลากลับไปสักเล็กน้อย ไปยังช่วงการระบาดของโควิด หลายคนต้องล้อคดาวน์ตัวเองอยู่ในบ้าน หรือบางคนอาจจะไปติดอยู่ในสถานที่อาจจะไม่ใช่พื้นที่ของตัวเอง หรือที่ที่ไม่คุ้นเคย นักท่องเที่ยวบางคนติดอยู่ที่เกาะ คำว่า “ติดเกาะ” จึงใช้ได้กับหลายๆ คนในช่วงนั้น แต่การติดเกาะของแอ้ มทินา น้องสาวคนเล็กของ Sretsis แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของไทยที่หลายคนรู้จักดีนั้น แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง เพราะแอ้เลือกที่จะหลบมาใช้ชีวิตล็อคดาวน์เงียบๆ อยู่ที่เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี ด้วยความที่เป็นสถานที่ที่เธอเคยมีความทรงจำที่ประทับใจในวัยเด็ก แต่การมาใช้ชีวิตที่สมุยในครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนชีวิตของเธอในหลายมิติแบบที่ไม่ได้คาดคิดหรือวางแผนมาก่อนล่วงหน้า
ก่อนอื่น เราขอย้อนเวลากลับไปสักเล็กน้อย ไปยังช่วงการระบาดของโควิด หลายคนต้องล้อคดาวน์ตัวเองอยู่ในบ้าน หรือบางคนอาจจะไปติดอยู่ในสถานที่อาจจะไม่ใช่พื้นที่ของตัวเอง หรือที่ที่ไม่คุ้นเคย นักท่องเที่ยวบางคนติดอยู่ที่เกาะ คำว่า “ติดเกาะ” จึงใช้ได้กับหลายๆ คนในช่วงนั้น แต่การติดเกาะของแอ้ มทินา น้องสาวคนเล็กของ Sretsis แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของไทยที่หลายคนรู้จักดีนั้น แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง เพราะแอ้เลือกที่จะหลบมาใช้ชีวิตล็อคดาวน์เงียบๆ อยู่ที่เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี ด้วยความที่เคยสถานที่ที่เธอเคยมีความทรงจำที่ประทับใจในวัยเด็ก แต่การมาใช้ชีวิตที่สมุยในครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนชีวิตของเธอในหลายมิติแบบที่ไม่ได้คาดคิดหรือวางแผนมาก่อนล่วงหน้า
จุดเริ่มคงเป็นที่การขับรถตระเวนไปทั่วเกาะในช่วงนั้น จนได้พบกับที่ดินริมทะเลผืนหนึ่งซึ่งเธอได้สานความฝันที่มีอยู่ในตัวมานานในการที่จะสร้างสรรค์พื้นที่สำหรับเล่นและเรียนรู้ให้กับเด็ก “แอ้เป็นคนที่ทำอะไรไม่ค่อยเก่ง แต่สิ่งที่แอ้ถนัดที่สุด คือการจินตนาการค่ะ แอ้อยากส่งเสริมให้เด็กได้มีจินตนาการ” และจินตนาการเล็กๆ ของเธอนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าจะเก็บไว้เมื่อได้พบกับที่ดินผืนที่ว่า เธอจึงลงมือปลุกปั้น Mulamati ด้วยความฝันและจินตนาการของผู้ใหญ่หัวใจเด็กจนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ในช่วงนี้แอ้ได้ลองใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลายแห่งในสมุยจนอินกับหลายๆ อย่างบนเกาะ ได้ผูกมิตรและรู้จักผู้คนมากมาย สาวแฟชั่นจากกรุงเทพฯ คนนี้จึงกลายเป็นสาวชาวเกาะไปโดยปริยายในช่วงนั้น
From Grandfather’s House to Artist in Residence จากบ้านคุณปู่สู่บ้านศิลปิน
แล้วเธอก็ได้มาพบกับบ้านไม้เก่าๆ หลังหนึ่งในย่านบางเก่า ซึ่งถือว่าเคยเป็นย่านรุ่งเรืองของสมุยในอดีตเพราะมีท่าที่เรือเข้ามาเทียบฝั่งอยู่บ่อยๆ จนความเจริญและตัวเมืองย้ายไปยังโซนอื่น ย่านนี้ในปัจจุบันจึงเป็นย่านที่ค่อนข้างเงียบสงบ ไม่ได้มีนักท่องเที่ยวมากนัก วิถีชีวิตแบบท้องถิ่นของคนแถบนี้คือสิ่งที่แอ้หลงรักเช่นเดียวกับบ้านไม้อายุรุ่นคุณปู่หลังนี้
“ชื่อบ้านคุณปู่ จะเป็นที่รู้กันในหมู่คนส่งของแถวนี้ เพราะไม่มีบ้านเลขที่ค่ะ” คุณปู่ที่ว่าคือเจ้าของบ้านดั้งเดิม ซึ่งก่อนที่แอ้จะตกลงมาเช่า บ้านหลังนี้มีคนเช่าอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว และสภาพก็ไม่ใช่อย่างที่เห็น ตัวบ้านเป็นบ้านไม้ดั้งเดิมตามอย่างบ้านบนเกาะสมุยที่ยกพื้นต่ำๆ มีใต้ถุนเตี้ยๆ ไม่ได้ยกสูงอย่างบ้านไทยในภาคกลาง เมื่อการเจรจาเช่าบ้านจบลง แอ้ทำการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงบ้านใหม่ เริ่มตั้งแต่การเปลี่ยนบ้านไม้สีทึมๆ ให้กลายเป็นบ้านสีสันสดใสในโทนเขียว-ชมพู ซึ่งเป็นคู่สีโปรดของเธอ มีสีเหลืองตัดภายในบางส่วน และกลายเป็นสามสีหลักของบ้าน และเมื่อเปิดประตูบานเฟี้ยมและหน้าต่างทั้งหมด แสงสว่างจากแดดเมืองร้อนที่ส่องเข้ามาในบ้านก็จุดประกายสว่างไสวให้กับตัวบ้านทั้งหมด ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากเมื่อแรกพบโดยสิ้นเชิง
“ชื่อบ้านคุณปู่ จะเป็นที่รู้กันในหมู่คนส่งของแถวนี้ เพราะไม่มีบ้านเลขที่ค่ะ” คุณปู่ที่ว่าคือเจ้าของบ้านดั้งเดิม ซึ่งก่อนที่แอ้จะตกลงมาเช่า บ้านหลังนี้มีคนเช่าอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว และสภาพก็ไม่ใช่อย่างที่เห็น ตัวบ้านเป็นบ้านไม้ดั้งเดิมตามอย่างบ้านบนเกาะสมุยที่ยกพื้นต่ำๆ มีใต้ถุนเตี้ยๆ ไม่ได้ยกสูงอย่างบ้านไทยในภาคกลาง เมื่อการเจรจาเช่าบ้านจบลง แอ้ทำการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงบ้านใหม่ เริ่มตั้งแต่การเปลี่ยนบ้านไม้สีทึมๆ ให้กลายเป็นบ้านสีสันสดใสในโทนเขียว-ชมพู ซึ่งเป็นคู่สีโปรดของเธอ มีสีเหลืองตัดภายในบางส่วน และกลายเป็นสามสีหลักของบ้าน และเมื่อเปิดประตูบานเฟี้ยมและหน้าต่างทั้งหมด แสงสว่างจากแดดเมืองร้อนที่ส่องเข้ามาในบ้านก็จุดประกายสว่างไสวให้กับตัวบ้านทั้งหมด ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากเมื่อแรกพบโดยสิ้นเชิง
ในส่วนของโครงสร้างแทบไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างหลักเลย มีเพียงการทำเคาน์เตอร์ครัวขึ้นมาใหม่ และการต่อเติมพื้นที่ด้านหลังขึ้นมาเพื่อเชื่อมกับห้องน้ำที่เดิมทีนั้นอยู่นอกตัวบ้านให้รวมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน ปูกระเบื้องและทำอ่างอาบน้ำก่อปูนประดับกระเบื้องโมเสกลายสวยสีสดใส เช่นเดียวกับส่วนหน้าบ้านที่มีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อยู่บนกระเบื้องที่ปูบนขั้นบันได รับกับหลังคากระเบื้องจีน “เดิมทีเรียกบ้านจีนค่ะ เพราะมีหลังคากระเบื้องแบบจีน เป็นสิ่งที่ฝรั่ง (ผู้เช่า) คนก่อนทำไว้” ส่วนอื่นๆ นั้น เป็นเรื่องของการซ่อมแซมและหาวัสดุและฟิตติ้งที่เข้ากับของเก่ามาทดแทน โดยใส่ความสดใสในแบบของแอ้ลงไปในรายละเอียดของการตกแต่ง
เดิมทีนั้นแอ้ตั้งใจจะอยู่ที่บ้านหลังนี้เอง แต่ด้วยความที่สร้างไม่เสร็จเสียที เธอจึงหันไปมองบ้านข้างๆ และสุดท้ายบ้านหลังข้างๆ ก็เสร็จก่อน เธอจึงอยู่ที่บ้านหลังนั้น แล้วตั้งใจจะเปลี่ยนบ้านคุณปู่หลังนี้เป็นสตูดิโอสร้างสรรค์ร่วมกับเพื่อนๆ ที่มาเจอกันบนเกาะ “มีเพื่อนผู้หญิงหนีโควิดมา ว่าจะทำที่นี่เป็นครีเอทีฟสตูดิโอ เหมือนเป็นคลับ ตอนแรกคิดว่ามันต้องน่ารักมากเลย พวกเราขี่จักรยานแล้วมารวมตัวกันตรงนี้ อยากทำเป็นแบบที่ที่เราโชว์งานศิลปะ มีน้ำชา นึกอยู่หลายอย่าง แต่อยากเป็นที่เปิดให้คนได้มารวมตัวกันได้” เธอเล่าให้ฟังถึงไอเดียแรกเริ่ม “แต่กว่าจะเสร็จทุกคนเขาย้ายกลับไปหมดแล้ว” บ้านคุณปู่จึงผันตัวมาเป็นบ้านพักสำหรับศิลปิน หรือ Artist in Residence สำหรับครูหรือศิลปินที่มาสร้างสรรค์งานที่ Mulamati รวมไปถึงศิลปินจากทั่วโลกที่อยากมาสร้างสรรค์ผลงานบนเกาะสมุยแห่งนี้
14 Days of Living Like the Artist 14 วัน กับการสร้างสรรค์งานที่บ้านคุณปู่
กลับมาที่กรุงเทพฯ สักหน่อย – เราได้ทราบถึงเรื่องราวของบ้านคุณปู่บนเกาะสมุยในงานปาร์ตี้ของ Slowcombo คอมมูนิตี้สเปซสุดสร้างสรรค์สำหรับคนรักสุขภาพ ของคล้ายเดือน สุขะหุต พี่สาวคนโตของ Sretsis จึงได้เกิดไอเดียในการที่จะนำเสนอเรื่องราวของบ้านหลังนี้ใน QoQoon แต่ที่มากกว่าแค่เรื่องราวของการตกแต่งบ้านอย่างเคยๆ แอ้ชักชวนให้เรามาลองพักและใช้เวลาในช่วงนี้สร้างสรรค์ผลงานในแบบของ QoQOon ในฐานะ Artist in Residence ภารกิจสร้างสรรค์คอนเท้นต์อันเป็นเรื่องราวประทับใจที่เกิดจากแรงบันดาลใจในช่วงเวลาที่มาทดลองใช้ชีวิตในบ้านคุณปู่เป็นเวลาสองสัปดาห์จึงเกิดขึ้น
เราพบกับบ้านคุณปู่ในช่วงเย็นของวันแรกบนเกาะสมุย ตัวบ้านตั้งอยู่หลังรั้วเฟื่องฟ้าสีชมพูสดแมทชิ่งกับสีเขียว-ชมพูของบ้าน เราไม่มีเวลาสังเกตหรือสำรวจบ้านมากมายนักเพราะสักพักก็พลบค่ำ ประสบการณ์ในคืนแรกจึงเป็นการนอนหลับพักผ่อนในห้องนอนสีชมพูหวานมีมุ้งกันยุงครอบอยู่บนเตียงอีกชั้นหนึ่ง ในห้องนอนมีโต๊ะเครื่องแป้งเก่าที่ถูกนำมาแต่งหน้าทาปากด้วยสีชมพูเฉดเดียวกับผนังห้อง ค่ำคืนแรกที่นี่ผ่านไปอย่างสงบแต่ไม่เงียบ เพราะได้ยินเสียงแมลงและธรรมชาติภายนอกกล่อมให้หลับฝันดีทั้งคืน
เราพบกับบ้านคุณปู่ในช่วงเย็นของวันแรกบนเกาะสมุย ตัวบ้านตั้งอยู่หลังรั้วเฟื่องฟ้าสีชมพูสดแมทชิ่งกับสีเขียว-ชมพูของบ้าน เราไม่มีเวลาสังเกตหรือสำรวจบ้านมากมายนักเพราะสักพักก็พลบค่ำ ประสบการณ์ในคืนแรกจึงเป็นการนอนหลับพักผ่อนในห้องนอนสีชมพูหวานมีมุ้งกันยุงครอบอยู่บนเตียงอีกชั้นหนึ่ง ในห้องนอนมีโต๊ะเครื่องแป้งเก่าที่ถูกนำมาแต่งหน้าทาปากด้วยสีชมพูเฉดเดียวกับผนังห้อง ค่ำคืนแรกที่นี่ผ่านไปอย่างสงบแต่ไม่เงียบ เพราะได้ยินเสียงแมลงและธรรมชาติภายนอกกล่อมให้หลับฝันดีทั้งคืน
เนื่องจากตัวบ้านหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ในวันที่เช้าอากาศดีแสงอาทิตย์จะค่อยๆ ส่องผ่านแมกไม้จากสวนด้านหลังเข้ามายังตัวบ้าน เมื่อเปิดประตูหน้าต่างที่ห้องโถงด้านหน้าออกทั้งหมดบ้านก็สว่างสดใสขึ้นมาอย่างที่แอ้ว่าจริงๆ ในบ้านมีเฟอร์นิเจอร์อยู่ไม่กี่ชิ้น เท่าที่ความจำเป็นในการใช้ชีวิตที่สมุยจะต้องการเท่านั้น ส่วนรูปภาพประดับบนฝาผนังส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดเป็นของเดิมที่มีติดบ้านอยู่แล้ว เราขอจัดบ้านใหม่ในแบบของ QoQoon เอง โดยจัดวางชุดโซฟากำมะหยี่สีสดที่แอ้สั่งทำขึ้นมาสำหรับบ้านหลังนี้โดยเฉพาะที่ห้องโถงด้านหน้า รวมถึงวางบีนแบ็คสำหรับนั่งเล่นในโซนนี้ โต๊ะกลางปูด้วยผ้าปูโต๊ะและจัดวางของใช้ของตกแต่งจาก Sretsis Palour ที่แอ้เป็นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของแบรนด์ เช่นเดียวกับโต๊ะกินข้าวที่จัดวางไว้กลางบ้านซึ่งอยู่ถัดจากส่วนของครัวที่จัดวางจานชามข้าวของเครื่องใช้ในครัวไว้อย่างครบครัน เราตัดดอกไม้จากสวนด้านนอกมาจัดใส่แจกันทุกใบในบ้านแบบเรียบง่าย
นอกจากห้องนอนสีชมพูแล้วยังมีห้องสีเขียวเล็กๆ ที่จัดวางตั่งไว้เป็นห้องพักได้อีกห้อง พร้อมทั้งมีที่นอนสำหรับแขกในอีกมุมของบ้าน ซึ่งเราใช้ฉากกั้นในคอลเล็กชันใหม่ของ Sretsis Palour กั้นไว้อีกทีเพื่อความเป็นสัดส่วน
ด้านหน้าบ้านเป็นระเบียงร่มรื่นที่เหมาะสำหรับนั่งเล่นได้ทั้งยามเช้าที่แดดจากด้านหลังบ้านส่องมาไม่ถึงหรือในยามแดดร่มลมตก การนั่งคิดงานบนเปลหวายกับแดดอ่อนๆ ในยามเย็น เป็นการเพิ่มพลังสร้างสรรค์ชั้นดี ตลอดเวลา 14 วัน ที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านคุณปู่หลังนี้ จึงเต็มไปด้วยความสงบและพลังงานดีๆ ที่ส่งผ่านกันต่อมาเป็นทอดๆ ซึ่งเราได้ใช้พลังงานเหล่านั้นมาสร้างสรรค์เป็น QoQoon ฉบับ Samui We Love นี้ เพื่อให้คนอ่านได้รับพลังงานดีๆ แบบนี้ต่อไป ส่วนใครที่สนใจอยากมาเติมพลังสร้างสรรค์และร่วมแชร์สิ่งดีๆ ให้กัน ลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ [email protected] หรือ Instagram @grandfather_house_samui

Photo: Kris Krisada
Story & Styling: Wachirapanee Whisky Markdee