Home

Life In Colours

เมื่อมองจากภายนอกจะมองเห็นเค้าโครงเรียบง่ายแบบบ้านทาวน์เฮาส์ยุคก่อน แต่ด้วยผนังภายนอกทั้งหมดที่ใช้โทนสีเขียวเข้มแปลกตา ก็บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าสไตล์ของบ้านหลังนี้จะต้องมีความไม่ธรรมดา
คุณริก้า ดีล่า
คุณริก้า ดีล่า
โต๊ะกินข้าวเมื่อมองลงมาจากชั้นบน
โต๊ะกินข้าวเมื่อมองลงมาจากชั้นบน

คุณริก้า ดีล่า เล่าถึงความเป็นมาของบ้านนี้ว่าเป็นทาวน์เฮาส์ที่ซื้อไว้นานแล้วและนำมารีโนเวทใหม่ ชื่อของบ้านหลังนี้คือ “Áine” มาจากชื่อเทพีแห่งฤดูร้อนและความรุ่งโรจน์ของชาวไอริช “บ้านทุกหลังมีชื่อที่เราตั้งให้ ตามแต่ Story หรือความชอบของเจ้าของ ชื่อ Áine เป็นชื่อ Goddess สาวสวย ผมแดง มีกระ ตามสเปคความชอบของลูกชาย เพราะบ้านหลังนี้ทำให้เขา เรื่องการตกแต่ง ลูกเป็นคนง่ายๆ เขาจึงยกให้เราตกแต่งตามใจเราทั้งหมด โดยที่เรามีข้อแม้ว่าแม่ขอชั้นล่างเป็นห้องทำงาน และทำห้องนอนห้องแต่งตัวของแม่ไว้ที่บ้านนี้ด้วย เราตั้งใจทำ living room ให้ใหญ่ ลูกจะได้มีที่ไว้ปาร์ตี้กับเพื่อน รวมทั้งห้องให้เขาเล่นดนตรี”

ห้องทำงานคุณริก้า
ห้องทำงานคุณริก้า

ชั้นแรกของตัวบ้านจึงเป็นห้องทำงานของคุณริก้า ที่มีคาแรกเตอร์จัดจ้านไม่แพ้เจ้าของ จากพื้นกระเบื้องสีเขียวมรกตวางสลับลายก้างปลา ตัดขอบด้วยกระเบื้องลายดอกไม้ ไปจรดเพดานสีเขียวสดมีเดินเส้นดาวเพดานแบบ ceiling molding

“บรีฟแรกที่บอกกับดีไซเนอร์คือขอให้มีสไตล์ Moroccan แต่เมื่อทำไปเรื่อยๆ ก็มีกลิ่นอายความจีนมาผสมอยู่ด้วย เราชอบความ Maximal ชอบสีสดใส ไม่ชอบสีขาว มีการใช้สีสันแบบ Moroccan อยู่ในสีทุกชั้น ฝ้า เพดาน ไปจนถึงกระเบื้อง อย่างกระเบื้องลายดอกไม้คือเราออกแบบเองแล้วให้โรงงานที่ลำปางผลิตให้ เฟอร์นิเจอร์และข้าวของทั้งหมดเป็นของเก่าที่เก็บมาจากบ้านโน้นบ้านนี้ หรือจากร้านที่เคยทำ คือทุกอย่างมีความ sustain นำกลับมาใช้ใหม่ได้หมด เช่นโต๊ะ Cassina ที่ซื้อมา 25 ปีแล้วก็เอาไปให้ร้านขัดใหม่ ตู้ลิ้นชักมีช่องที่เป็นลิ้นชักเรียงพิมพ์โบราณ หรือโคมไฟที่เก็บมา 20 ปี จากสีทอง ก็ oxidised จนเกิดเป็นลวดลาย และสิ่งที่ภูมิใจมากคือเราเลือกใช้ของจากดีไซเนอร์ไทยทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ หมอน ผ้าม่าน และงานศิลปะ”

ห้องรับแขกกึ่งห้องนั่งเล่น
ห้องรับแขกกึ่งห้องนั่งเล่น

อีกด้านหนึ่งของตัวบ้านชั้นล่างเป็นห้องรับแขกกึ่งห้องนั่งเล่นของคุณริก้า เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเด่นที่สุดได้แก่เตียงแบบจีนโบราณซึ่งใช้เป็นที่นั่งเล่น รายรอบด้วยผนังสีชมพู และงานศิลปะมากมาย

ห้อง living room
ห้อง living room
Pantry ในห้อง living room
Pantry ในห้อง living room

และเมื่อขึ้นไปชั้น 2 ก็พบกับห้องที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของบ้านคือห้อง living room ซึ่งเชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหาร เพดานแบบ double space ซึ่งเกิดจากการทุบฟลอร์บางส่วนของชั้นบนออกไปให้เป็นสเปซเปิดโล่ง รับแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านร่มเงาสีเขียวสดของตะแบกต้นใหญ่ และยังมีทั้งมุมครัวและเคาน์เตอร์บาร์เป็นพื้นที่ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้คนในบ้านและเพื่อนฝูงได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างแท้จริง

ห้องรับประทานอาหาร
ห้องรับประทานอาหาร

บนโต๊ะไม้ตัวยาว มีเชิงเทียน แจกันดอกไม้สด และตุ๊กตาประดับตลอดความยาวของโต๊ะ เหมือนกันกับแทบทุกมุมบ้านที่เต็มไปด้วยของตกแต่งหลากสไตล์ ตั้งแต่ตุ๊กตาฝรั่งเศสไปจนฟิกเกอร์ตัวการ์ตูนมังงะ กรอบรูปสีสดใสและไฟวิบวับ “เราเป็นคนชอบของจุกจิก ชอบซื้อ ชอบเก็บ ไม่ทิ้งของเลยนอกจากของที่จำเป็นต้องทิ้ง แม้แต่ริบบิ้นที่มากับห่อของต่างๆ ก็ไม่เคยทิ้ง เอามาผูกไว้ตรงนั้นตรงนี้ ของทุกชิ้นมีสตอรี่ของมันที่มองไปแล้วมีความทรงจำ บางชิ้นเก็บมาตั้งแต่รุ่นพ่อ อะไรที่ยังใช้ได้เราก็ใช้ เช่น หมอนโครเชต์จากแบรนด์ของคุณมุก เพลินจันทร์ ที่เราใช้มา 15 ปียังไม่รุ่ยไม่ขาด ก็ยังใช้จนทุกวันนี้”

ห้องนอนคุณริก้า
ห้องนอนคุณริก้า
ห้องนอนของคุณ Gabby ลูกชาย
ห้องนอนของคุณ Gabby ลูกชาย

ชั้น 3 ของบ้านเป็นห้องนอนคุณริก้าและลูกชายรวมไปถึงห้องทำงานของลูก ที่ยังคงกลิ่นอาย Eclectic ผสมผสานการใช้วัสดุทั้งแบบเก่าและแบบใหม่ เฟอร์นิเจอร์ทั้งโมเดิร์นและโบราณให้อยู่ร่วมกันออกมาได้อย่างลงตัว อาทิ ห้องนอนลูกชายที่ใช้โทนสีเรียบขรึม มีบัวแต่งเพดานลายดอกไม้พลิ้วไหวแบบ Baroque แต่ก็ถูกเบรคด้วย partition เหล็กสลับกระจกใสแบบโมเดิร์น ทำให้ห้องดูมี mood & tone ในแบบห้องของผู้ชาย

พื้นที่พักผ่อนเอนกประสงค์ชั้นบนสุด
พื้นที่พักผ่อนเอนกประสงค์ชั้นบนสุด
ชั้นบนสุดของบ้านหรือ rooftop ออกแบบไว้ให้เป็นได้ทั้งมุมนั่งเล่น หรือใช้ปาร์ตี้สังสรรค์ “หลายคนที่มา มักจะบอกว่าตรงนี้ดูไม่เหมือนอยู่เมืองไทยเลย” คุณริก้าเล่า ด้วยวิว 360 องศาที่มองไปโดยรอบยังเป็นบ้านพักอาศัยและพื้นที่สีเขียว แทบไม่มีตึกสูงมาบดบังสายตา และด้วย vibe การตกแต่ง กำแพงฉาบสีชมพูแบบ Moroccan พื้นที่ใช้สอยมีทั้ง outdoor และห้องกระจก indoor ห้องเล็กแต่เต็มเปี่ยมด้วยสีสัน เช่นเดียวกับทุกห้องในบ้าน “Áine” หลังนี้ที่มีความสดใสเหมือนสาวน้อยแต่ก็เป็นสาวน้อยที่มีคาแรกเตอร์และมีสไตล์เป็นของตัวเองอย่างเด่นชัด  
Áine
ของตกแต่งแทบทุกชิ้นเป็นของเดิมที่มีอยู่และถูกหยิบนำมาใช้อีกครั้ง อาทิ กรอบหน้าต่างเหล็กดัดสไตล์ art deco เป็นของแอนทีคจากโบสถ์เก่า
Áine
เคาน์เตอร์ไม้แกะสลักสไตล์จีนโบราณ ถูกนำมาใช้เป็น partition สร้างความเป็นส่วนตัวจากภายนอกหากยังได้รับแสงที่ลอดผ่านลายฉลุไม้

Story: Titima C.
Styling: Whisky
Photos: Manoo Manookulkit

Share

Located in a serene locality, the distinguished dwelling named Áine, after the revered Irish goddess, catches the eye with a lush coat of green on the exterior. However, the real allure lies within, where every inch from the floor to the ceiling and every intricate detail conveys an exquisite beauty. The proprietorship of this abode, Khun Rika Dila, spans over two decades, during which she recently revamped the edifice and bequeathed it to her progeny.

The ambiance of the dwelling exudes a fascinating fusion. “I am captivated by maximalism which incorporates vivid hues, and the Morrocan-style palette serves as a backdrop on each floor. To achieve a perfect blend of antiquity with modernity, I have amalgamated furnishings from diverse eras.” The decor and the miscellaneous items have been ingeniously recycled and upcycled to ensure sustainability, which has culminated in an unparalleled, distinct eclectic atmosphere.