Home
In A Vibrant World Of JCDC
“เรากำลังมองหาบ้าน” Jean-Charles de Castelbajac ศิลปินและดีไซเนอร์ผู้เลื่องชื่อกล่าวขณะที่รินกาแฟจากกาซึ่งเขาออกแบบเองลงสู่ถ้วยเอสเพรสโซ่กระเบิ้องที่มีหูจับเป็นปีกสีสดใส “ผมอยากจะสร้างประติมากรรมที่ชิ้นใหญ่ยิ่งขึ้น ดังนั้นผมจึงต้องการห้องทำงานที่ใหญ่กว่าเดิม ซึ่งนั่นอาจจะหมายความว่าเราต้องย้ายออกนอกตัวเมือง”
นี่คืออพาร์ทเมนต์แห่งที่ 23 ในกรุงปารีสและน่าจะเป็นอพาร์ตเมนต์ที่สุดท้ายของเขา ที่พักอาศัยสำหรับครอบครัวแห่งนี้เป็นอพาร์ทเม้นต์สไตล์คลาสสิคแบบ Haussmann ในเขต 17 ของกรุงปารีส ซึ่งห่างจากประตูชัยเพียงระยะเวลาเดินสั้นๆ อยู่ถัดจากร้านขายขนมปังซึ่งขายขนมเมเดลีนและขนมปังฝรั่งเศสรสชาร์โคล และยังมองออกไปเห็นแผงขายผลไม้ที่หัวมุมถนน
นี่คืออพาร์ทเมนต์แห่งที่ 23 ในกรุงปารีสและน่าจะเป็นอพาร์ตเมนต์ที่สุดท้ายของเขา ที่พักอาศัยสำหรับครอบครัวแห่งนี้เป็นอพาร์ทเม้นต์สไตล์คลาสสิคแบบ Haussmann ในเขต 17 ของกรุงปารีส ซึ่งห่างจากประตูชัยเพียงระยะเวลาเดินสั้นๆ อยู่ถัดจากร้านขายขนมปังซึ่งขายขนมเมเดลีนและขนมปังฝรั่งเศสรสชาร์โคล และยังมองออกไปเห็นแผงขายผลไม้ที่หัวมุมถนน
ดีไซเนอร์อายุ 72 ผู้ซึ่งมีลายเซ็นในการใช้รูปคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูนและการใช้แม่สีสดใสย้ายมาอยู่ที่นี่ได้สองปีแล้ว หลังจาก Pauline de Drouas วัย 36 ภรรยานักกวีของเขาค้นพบว่าตัวเองตั้งครรภ์ “ในตอนนั้นบ้านของเราเป็นอพาร์ทเม้นต์ที่มีสวนโรแมนติกกว่าที่นี่” เขาเล่า “แต่เราต้องการสถานที่ซึ่งใช้งานได้ดีและมี พื้นที่ให้ผมสามารถทำงานได้” ไม่กี่วันหลังจาก Eugenie ลูกสาวของพวกเขาถือกำเนิด กรุงปารีสก็เข้าสู่สภาวะล็อกดาวน์ ดังนั้นการย้ายบ้านจึงนับว่าเป็นเคราะห์ดีอย่างยิ่ง “ผมสามารถที่จะวาดรูปและทำงานได้ทุกวัน บางส่วนของงานวาดรูปที่ทำนั้นรวมอยู่ในหนังสือที่เพิ่งได้รับการตีพิมพ์ ผมยังได้ใช้เวลาพอสมควรเพื่อแต่งเพลงให้กับ Eugenie การได้มีเธอเป็นการบำบัดที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก”
ไม่กี่วันหลังจาก Eugenie ลูกสาวของพวกเขาถือกำเนิด กรุงปารีสก็เข้าสู่สภาวะล็อกดาวน์ ดังนั้นการย้ายบ้านจึงนับว่าเป็นเคราะห์ดีอย่างยิ่ง “ผมสามารถที่จะวาดรูปและทำงานได้ทุกวัน บางส่วนของงานวาดรูปที่ทำนั้นรวมอยู่ในหนังสือที่เพิ่งได้รับการตีพิมพ์ ผมยังได้ใช้เวลาพอสมควรเพื่อแต่งเพลงให้กับ Eugenie การได้มีเธอเป็นการบำบัดที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก”
ดีไซเนอร์ผู้ซึ่งโด่งดังในยุค 70s มาจากผลงานศิลปะ upcycled และผลงานเชิงล้อเลียน ผู้ซึ่งนับว่า Keith Haring, Andy Warhol และ Malcolm McLaren เป็นเพื่อนสนิทของเขาและผู้ร่วมคอลแลบได้ทำการ comeback ครั้งยิ่งใหญ่สู่วงการแฟชั่นเมื่อเขาเข้ารับตำแหน่ง Creative Director ของ Benetton ในปี 2019 ซึ่งดูเหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะการใช้สีสันสดใสทั้งฟ้า เขียว เหลือง แดงของ Castelbajac นั้นกลมกลืนกับ DNA ของแบรนด์อิตาเลียนนี้เป็นอย่างดี และเขาได้ร่วมงานกับ Oliviero Toscani ช่างภาพผู้โด่งดังของ Benetton เป็นเวลาหลายปี ซึ่งในบ้านของของ Castelbajac ถัดจากโต๊ะกินข้าว เป็นผนังที่เต็มไปด้วยภาพพอร์ตเทรตฝีมือ Toscani ในช่วงปี 80s อาทิ ภาพกลุ่มเพื่อนๆใส่เสื้อผ้านิตแวร์จากแบรนด์ Iceberg ของเขา “Vivienne, Andy, Franco Moschino และ Ettore Sottsass…เขาเหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นอินฟลูเอนเซอร์ผู้ยิ่งใหญ่ของยุค”
และเขาได้ร่วมงานกับ Oliviero Toscani ช่างภาพผู้โด่งดังของ Benetton เป็นเวลาหลายปี ซึ่งในบ้านของของ Castelbajac ถัดจากโต๊ะกินข้าว เป็นผนังที่เต็มไปด้วยภาพพอร์ตเทรตฝีมือ Toscani ในช่วงปี 80s อาทิ ภาพกลุ่มเพื่อนๆใส่เสื้อผ้านิตแวร์จากแบรนด์ Iceberg ของเขา “Vivienne, Andy, Franco Moschino และ Ettore Sottsass…เขาเหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นอินฟลูเอนเซอร์ผู้ยิ่งใหญ่ของยุค”
แบรนด์ Iceberg นั้นยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน หากแต่เป็น Castelbajac ผู้ริเริ่มก่อตั้งขึ้นในช่วงปี 70 ช่วงเวลาเดียวกันกับที่ McLaren เพื่อนของเขาคิดค้นกระแสพังค์ในลอนดอน เขาก็สร้างเสื้อผ้าไหมพรมลวดลายการ์ตูน ตั้งแต่ Road Runner และ Jerry ไปจนถึง Felix The Cat ขึ้นที่ปารีส และสร้างคำนิยามใหม่ให้เกิดแรงกระเพื่อมกับแฟชั่นแบบสตรีทแวร์ซึ่งถูกยึดครองด้วยวัฒนธรรมฮิปฮ็อป “เสื้อผ้าเหล่านั้นกลายเป็นตราประจำตระกูลของเด็ก Afro American” เขากล่าว “และนั่นเป็นเวลานานกว่าที่สไตล์นี้จะได้รับความเคารพอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน คือเป็นราชนิกุลของเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์”
Castelbajac เรียกอพาร์ตเม้นต์ของเขาว่าเป็น “Cabinet of Curiosities” หรือตู้เก็บข้าวของน่าสนใจจากทุกมุมโลก ที่นี่รวบรวมเอาคอลเล็กชั่นแห่งความทรงจำและผลงานมากมายจากช่วงการทำงาน 50 ปี มีทั้งข้าวของที่เขาเป็นผู้สร้างขึ้น เฟอร์นิเจอร์จาก Sottsass เพื่อนผู้ล่วงลับ (ผู้ก่อตั้ง postmodern memphis collective) และผลงานศิลปะจาก Keith Haring และเพื่อนคนอื่นๆ มีเก้าอี้ซึ่งเป็นผลงานคอลแลบกับ Kanye West และที่อีกมุมห้องก็มีเก้าอี้อีกตัวซึ่งมีแจ็คเก็ตพาดอยู่เบื้องหลัง เป็นแจ็กเก็ตที่ประกอบขึ้นจากการเย็บตุ๊กตาหมีหลากสีเข้าด้วยกัน “แจ็กเก็ตตัวนี้ถูกใส่ครั้งแรกโดย LL Cool J ในช่วง 80s” เขาเล่า “ผมยังจำได้ว่าเขาพูดว่าการใส่เสื้อผ้าของผมนั้นทำให้เขารู้สึกราวกับการได้สวมเสื้อโค้ตสำหรับพระเจ้าเฮนรี่ที่แปด” ในช่วงปีหลังๆ มานี้เขาได้กลายเป็นที่นิยมของชาวลอนดอนเป็นอย่างมากและได้รับชื่อเล่นใหม่ว่า “JCDC”
และที่อีกมุมห้องก็มีเก้าอี้อีกตัวซึ่งมีแจ็คเก็ตพาดอยู่เบื้องหลัง เป็นแจ็กเก็ตที่ประกอบขึ้นจากการเย็บตุ๊กตาหมีหลากสีเข้าด้วยกัน “แจ็กเก็ตตัวนี้ถูกใส่ครั้งแรกโดย LL Cool J ในช่วง 80s” เขาเล่า “ผมยังจำได้ว่าเขาพูดว่าการใส่เสื้อผ้าของผมนั้นทำให้เขารู้สึกราวกับการได้สวมเสื้อโค้ตสำหรับพระเจ้าเฮนรี่ที่แปด” ในช่วงปีหลังๆ มานี้เขาได้กลายเป็นที่นิยมของชาวลอนดอนเป็นอย่างมากและได้รับชื่อเล่นใหม่ว่า “JCDC”
สำหรับตัวเขาที่ดูจะหมกมุ่นกับสีสันสดใส มันก็เป็นเรื่องน่าแปลกใจที่ Castelbajac มีคอลเล็คชั่นอันน่าประทับใจของภาพถ่ายขาวดำจำนวนมาก รวมไปถึงผลงานของ Diane Arbus และเพื่อนเก่าของเขา Robert Mapplethorpe หากทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่เขาเรียกว่า “สภาวะคู่กัน” เขากล่าวว่า “ก่อนที่ผมจะชอบใช้สีซึ่งตอนนี้ผมเรียกว่าเป็น ‘อาวุธ’ ของผมนั้น ผมชอบดีไซน์โดยไม่ใช้สีอะไรเลย” เค้ายังชี้ให้เห็นว่ามีการใช้สีดำอยู่เสมอในงานของเขา “ผมใช้สีสันเป็นเหมือนเสื้อเกราะ และผมก็มี palette สีที่ใช้ไม่มาก แต่จะต้องมีสีดำอยู่ด้วยเสมอ ถ้าหากไม่มีสีดำแล้ว ทุกสิ่งจะดูไร้โครงสร้าง”
เขากล่าวว่า “ก่อนที่ผมจะชอบใช้สีซึ่งตอนนี้ผมเรียกว่าเป็น ‘อาวุธ’ ของผมนั้น ผมชอบดีไซน์โดยไม่ใช้สีอะไรเลย” เค้ายังชี้ให้เห็นว่ามีการใช้สีดำอยู่เสมอในงานของเขา “ผมใช้สีสันเป็นเหมือนเสื้อเกราะ และผมก็มี palette สีที่ใช้ไม่มาก แต่จะต้องมีสีดำอยู่ด้วยเสมอ ถ้าหากไม่มีสีดำแล้ว ทุกสิ่งจะดูไร้โครงสร้าง”
การใช้สีสันของ Castelbajac นั้นจู่โจมแม้แต่ป้อมปราการที่ดูไม่น่าจะเป็นไปได้ ในปี 1997 เขาทำชุดให้กับบาทหลวง 500 คน พระ 5000 องค์และโป๊ป John Paul II เสื้อคลุมของโป๊ปนั้นปักประดับประดาด้วยกางเขนสีสดใสขลิบทองโดย Lesage ซึ่งภายหลังได้ไปจบลงที่งาน Met’s 2018 ในธีม Heavenly Bodies และภาพของเหล่าพระในชุดแถบสีรุ้งได้กลายเป็นตำนาน เราได้ถามเขาว่า เขาคุ้นเคยกับรูปสายรุ้งที่ถูกวาดโดยเด็กมากมายที่หน้าต่างในสถานพยาบาลทั่วประเทศอังกฤษอย่างไร “ผมรักมัน! นั่นคือสิ่งที่ผมทำ เช่นเดียวกับงานศิลปะจัดวางและเวิร์คช็อป Le peuple de demain ที่ Pompidou ซึ่งเชื้อเชิญให้เด็กๆมาสร้างสรรค์ธง และสัญลักษณ์ต่างๆในแบบของตัวเอง ในตอนที่ผมใช้สีสายรุ้งกับเหล่าวาติกันนั้นเป็นยุคก่อนที่จะมี Instagram ซึ่งหากลองคิดดูถึงพลังของการที่เราสามารถนำพาผู้คนมารวมตัวกันได้ในตอนนี้แล้ว สายรุ้งเป็นสัญลักษณ์ของทั้งเกย์ ชาวอินคา และสันติภาพ มันจึงเชื่อมโยงถึงชุมชนและสังคมทั้งหมด สำหรับผมแล้วมันคือธงของจักรวาลนี้ และเป็นธงเดียวที่มีความสำคัญมาก”
เราได้ถามเขาว่า เขาคุ้นเคยกับรูปสายรุ้งที่ถูกวาดโดยเด็กมากมายที่หน้าต่างในสถานพยาบาลทั่วประเทศอังกฤษอย่างไร “ผมรักมัน! นั่นคือสิ่งที่ผมทำ เช่นเดียวกับงานศิลปะจัดวางและเวิร์คช็อป Le peuple de demain ที่ Pompidou ซึ่งเชื้อเชิญให้เด็กๆมาสร้างสรรค์ธง และสัญลักษณ์ต่างๆในแบบของตัวเอง ในตอนที่ผมใช้สีสายรุ้งกับเหล่าวาติกันนั้นเป็นยุคก่อนที่จะมี Instagram ซึ่งหากลองคิดดูถึงพลังของการที่เราสามารถนำพาผู้คนมารวมตัวกันได้ในตอนนี้แล้ว สายรุ้งเป็นสัญลักษณ์ของทั้งเกย์ ชาวอินคา และสันติภาพ มันจึงเชื่อมโยงถึงชุมชนและสังคมทั้งหมด สำหรับผมแล้วมันคือธงของจักรวาลนี้ และเป็นธงเดียวที่มีความสำคัญมาก”
Photos and Story: Mark C. O’Flaherty / Living Inside
Translate: Titima C.