Home

Home For Christmas

ในวันอันสวยงามวันหนึ่งในฤดูหนาว เราได้เดินทางไปยังบ้านของแอนนาและโบที่ Saltsjöbaden บ้านหลังนี้เป็นบ้านในยุคเปลี่ยนผ่านศตวรรษซึ่งมีสไตล์แบบโรแมนติกและตั้งอยู่ในหมู่บ้านริมทะเลที่งดงามราวภาพวาด

ครอบครัวนี้ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ 25 ปี และยังคงมีความสุขกับบ้านหลังนี้เฉกเช่นเดียวกับวันแรกที่ย้ายเข้ามา แม้ว่าในตอนแรกนั้น facade จะเคยเป็นสีชมพู สภาพสวนรกเรื้อและถูกทิ้งร้าง และยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องจัดการ รวมทั้งสร้างโรงรถและเปลี่ยนกระท่อมในสวนให้กลายเป็นเรือนรับรองแขกหรือโรงเพาะชำ 

พวกเขาค่อยๆทำทีละโปรเจ็กต์ ค่อยๆฟื้นฟูสภาพบ้านและสวนทีละเล็กทีละน้อย หลังจากหลายปีที่ facade ถูกเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ไม่กี่ปีที่ผ่านมาพวกเขาก็ทาสีใหม่เป็นสีเทามุก ส่วนกรอบประตู หน้าต่างและงานไม้อื่นๆ ถูกทาเป็นสีขาวที่เจือสีเขียวอมน้ำตาลลงไป 10% ตอนนี้บ้านทั้งหลังดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติโดยรอบ ทั้งมวลต้นไม้และสภาพแวดล้อมที่เป็นแบบหมู่เกาะ ส่วนประกอบที่เป็นหินอย่างประตูหน้าต่างที่นำไปสู่ชั้นใต้ดินถูกทาเป็นสีเขียวเข้มสวย 

พวกเขาค่อยๆทำทีละโปรเจ็กต์ ค่อยๆฟื้นฟูสภาพบ้านและสวนทีละเล็กทีละน้อย หลังจากหลายปีที่ facade ถูกเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ไม่กี่ปีที่ผ่านมาพวกเขาก็ทาสีใหม่เป็นสีเทามุก ส่วนกรอบประตู หน้าต่างและงานไม้อื่นๆ ถูกทาเป็นสีขาวที่เจือสีเขียวอมน้ำตาลลงไป 10% ตอนนี้บ้านทั้งหลังดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติโดยรอบ ทั้งมวลต้นไม้และสภาพแวดล้อมที่เป็นแบบหมู่เกาะ ส่วนประกอบที่เป็นหินอย่างประตูหน้าต่างที่นำไปสู่ชั้นใต้ดินถูกทาเป็นสีเขียวเข้มสวย

โซนนั่งเล่นของบ้านมีขนาดประมาณ 250 ตารางเมตร รวมทั้งห้องใต้หลังคา ในส่วนห้องใต้ดินซึ่งมีหน้าต่างยาวและผนังขาวถูกจัดให้เป็นห้องซักล้าง ห้องเวิร์คช็อปทำงานอดิเรก ห้องเก็บอาหารและห้องที่ใช้เป็นทั้งห้องดนตรี ออกกำลังกายและดูภาพยนตร์

ชั้นพื้นดินของบ้านซึ่งประกอบด้วยห้องรับประทานอาหาร ห้องรับแขก ห้องครัวและห้องโถง มีหน้าต่างสวยๆ หลายบาน ความสูงเพดานที่กำลังพอเหมาะและพื้นที่เปิดโล่งซึ่งถูกกั้นด้วยประตูเลื่อนและประตูกระจกใส ทั้งหมดให้ความโปร่งโล่งและนำพาแสงสว่างเข้ามาในบ้าน

ที่ชั้นบนของบ้าน มีห้องนอนส่วนตัวของสมาชิกแต่ละคน ห้องนอนแขก ห้องสำหรับทำงาน และห้องน้ำ จากโถงชั้นบนมีบันไดที่นำไปสู่ห้องใต้หลังคาแสนสวยซึ่งเหล่าบรรดาหลานๆ พบว่า เป็นที่ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้เล่นซ่อนหา

ที่ชั้นบนของบ้าน มีห้องนอนส่วนตัวของสมาชิกแต่ละคน ห้องนอนแขก ห้องสำหรับทำงาน และห้องน้ำ

จากโถงชั้นบนมีบันไดที่นำไปสู่ห้องใต้หลังคาแสนสวยซึ่งเหล่าบรรดาหลานๆ พบว่า เป็นที่ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้เล่นซ่อนหา

โชคดีที่เจ้าของบ้านคนก่อนเก็บทั้งพื้น ประตูและงานไม้อื่นๆ เอาไว้ เมื่อแอนนาและโบย้ายเข้ามา พวกเขาจึงสามารถปรับให้มันเป็นสไตล์ที่ต้องการได้เพียงแค่ทาสีใหม่ ในตอนนี้ห้องน้ำถูกปรับโฉมใหม่หมดด้วยกระเบื้องแบบฝรั่งเศสและอ่างอาบน้ำสวยน่ารัก

โชคดีที่เจ้าของบ้านคนก่อนเก็บทั้งพื้น ประตูและงานไม้อื่นๆ เอาไว้ เมื่อแอนนาและโบย้ายเข้ามา พวกเขาจึงสามารถปรับให้มันเป็นสไตล์ที่ต้องการได้เพียงแค่ทาสีใหม่ 

ในตอนนี้ห้องน้ำถูกปรับโฉมใหม่หมดด้วยกระเบื้องแบบฝรั่งเศสและอ่างอาบน้ำสวยน่ารัก 

สภาพห้องครัวเดิมนั้นเลวร้ายเกินกว่าที่จะเก็บเอาไว้ พวกเขาจึงสร้างครัวใหม่ขึ้นมาโดยใช้ช่างไม้จากในละแวกนั้น ครัวถูกทาให้เป็นสีขาวหม่นและผนังเป็นสีเทาอ่อน ท็อปเคาน์เตอร์ถูกเปลี่ยนเป็นหินอ่อนอิตาลีและขอบมุมเป็นกระเบื้องจากฝรั่งเศส

เมื่อตอนที่ครอบครัวนี้ย้ายเข้า ในครัวมีเตาผิงขนาดใหญ่และที่ต้มน้ำร้อนซึ่งถูกย้ายออกไปแล้วแทนที่ด้วยเตากระเบื้องยุค 1880 อันปราณีตซึ่งมีฝาครอบสวยงาม เตานี้จะถูกจุดตั้งแต่เช้าจรดค่ำในฤดูหนาว ไม่ใช่แค่เพียงเพราะความสะดวกและประหยัด หากยังช่วยเติมเต็มบรรยากาศทั้งเสียงและกลิ่นอีกด้วย ส่วนพื้นห้องได้ถูกเปลี่ยนเป็นปูกระเบื้องไม้สนที่แข็งแรงแน่นหนา 

สภาพห้องครัวเดิมนั้นเลวร้ายเกินกว่าที่จะเก็บเอาไว้ พวกเขาจึงสร้างครัวใหม่ขึ้นมาโดยใช้ช่างไม้จากในละแวกนั้น ครัวถูกทาให้เป็นสีขาวหม่นและผนังเป็นสีเทาอ่อน ท็อปเคาน์เตอร์ถูกเปลี่ยนเป็นหินอ่อนอิตาลีและขอบมุมเป็นกระเบื้องจากฝรั่งเศส 

เมื่อตอนที่ครอบครัวนี้ย้ายเข้า ในครัวมีเตาผิงขนาดใหญ่และที่ต้มน้ำร้อนซึ่งถูกย้ายออกไปแล้วแทนที่ด้วยเตากระเบื้องยุค 1880 อันปราณีตซึ่งมีฝาครอบสวยงาม เตานี้จะถูกจุดตั้งแต่เช้าจรดค่ำในฤดูหนาว ไม่ใช่แค่เพียงเพราะความสะดวกและประหยัด หากยังช่วยเติมเต็มบรรยากาศทั้งเสียงและกลิ่นอีกด้วย ส่วนพื้นห้องได้ถูกเปลี่ยนเป็นปูกระเบื้องไม้สนที่แข็งแรงแน่นหนา

ห้องกินข้าวอันสวยงามซึ่งถูกสร้างมาในช่วงปี 1920 เป็นเพียงการต่อเติมเดียวที่มีให้กับบ้านซึ่งคงเดิมตั้งแต่แรกสร้าง ในห้องนี้มีแสงน้อยเกินไป แอนนากับโบจึงติดตั้งหน้าต่างสไตล์เดียวกันกับที่มีอยู่รอบบ้าน มันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าห้องนี้ไม่ได้ถูกสร้างมาตั้งแต่ต้น เพราะมันผสมกลมกลืนเป็นอย่างดีทั้งกับภายนอกและภายในของตัวบ้าน 

ห้องกินข้าวอันสวยงามซึ่งถูกสร้างมาในช่วงปี 1920 เป็นเพียงการต่อเติมเดียวที่มีให้กับบ้านซึ่งคงเดิมตั้งแต่แรกสร้าง 

ในห้องนี้มีแสงน้อยเกินไป แอนนากับโบจึงติดตั้งหน้าต่างสไตล์เดียวกันกับที่มีอยู่รอบบ้าน มันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าห้องนี้ไม่ได้ถูกสร้างมาตั้งแต่ต้น เพราะมันผสมกลมกลืนเป็นอย่างดีทั้งกับภายนอกและภายในของตัวบ้าน

ทั้งคู่ยังคงความเคารพในรูปแบบดั้งเดิมและเรื่องราวประวัติศาสตร์ของตัวบ้านอยู่เสมอเมื่อทำการปรับปรุงบ้าน พวกเขาอนุรักษ์และเน้นรายละเอียดที่อยู่ตรงนั้นตั้งแต่เริ่มสร้าง รวมทั้งเลือกที่จะตกแต่งผนังและพื้นในแบบที่จะคงทนและยังดูสวยอยู่ตลอดกาล ทั้งแอนนาและโบ มีความสนใจในการตกแต่งภายในโดยยึดคติที่ว่าน้อยแต่มาก พวกเขาไม่ให้ความสนใจกับเทรนด์ซึ่งมาแล้วก็ไป

โบยังมีความสนใจในเก้าอี้จากยุคสมัยต่างๆ ดังนั้นเมื่อหลายปีผ่านไปจึงมีเก้าอี้มากมายในบ้านหลังนี้ เหล่าโคมไฟระย้าสวยๆ กระจกและของประดับอื่นๆ จากยุค Jewish ช่วยตกแต่งบ้านให้ดูดียิ่งขึ้นและมีบรรยากาศของบ้านเมื่อตอนแรกเริ่ม เห็นได้ชัดว่าดนตรีและศิลปะก็อยู่ในความสนใจของครอบครัวนี้เช่นกัน นี่เป็นบ้านที่ประดับประดาจากสมบัติประดามีต่างๆ ผสมผสานกันทั้งใหม่และเก่า ทำให้เกิดไวป์ที่ทั้งสบายและเป็นส่วนตัว  

โบยังมีความสนใจในเก้าอี้จากยุคสมัยต่างๆ ดังนั้นเมื่อหลายปีผ่านไปจึงมีเก้าอี้มากมายในบ้านหลังนี้ เหล่าโคมไฟระย้าสวยๆ กระจกและของประดับอื่นๆ จากยุค Jewish ช่วยตกแต่งบ้านให้ดูดียิ่งขึ้นและมีบรรยากาศของบ้านเมื่อตอนแรกเริ่ม 

เห็นได้ชัดว่าดนตรีและศิลปะก็อยู่ในความสนใจของครอบครัวนี้เช่นกัน นี่เป็นบ้านที่ประดับประดาจากสมบัติประดามีต่างๆ ผสมผสานกันทั้งใหม่และเก่า ทำให้เกิดไวป์ที่ทั้งสบายและเป็นส่วนตัว

Styling and Story: Mari Strenghielm
Photo: Lina Östling /Taverne Agency
Translate: Titima C.

On a beautiful winters day, we visited Anna and Bo’s home in Saltsjöbaden. The house is an old turn-of-the-century house in National Romantic style and is situated in the picturesque village by the sea. The family moved here about 25 years ago and are just as happy now as they were then with the house, although the facade was pink and the garden was overgrown and neglected. There was a lot to do, including building a garage and rebuilding a garden shed in to a guesthouse/greenery.

They have carefully tackled one project at a time, slowly restoring the house and garden. After a number of years of the facade being yellow, a couple of years ago they decided to paint it pearl grey instead. The window and door frames and other wooden details are painted white with 10% green umber. Now the house blends into both the greenery and the archipelago environment in a natural way. Details around the beautiful stone foundation such as the door and windows to the basement level have been painted a beautiful dark green.

The living area of the house is about 250 sqm plus attic. The basement floor, which has deep windows and whitewashed walls, has a laundry room, hobby workshop, food cellar and a room for music, exercise and cinema.

The ground floor is the social area of the house with dining room, sitting room, kitchen and hallway. A lot of beautiful windows, generous ceiling height and open spaces separated by sliding and paired doors, provide light and space.

Upstairs, the family has their private area with bedrooms, guest room, study and bathroom. From the upper hallway, a staircase leads up to the beautiful attic room where the grandchildren finds it exciting to play hide & seek.

The previous owners had fortunately kept the floors, doors and other woodwork, so when Anna and Bo moved in, they could easily just make it their own by doing some painting. Now the bathroom has been completely renovated with new French tiles and gorgeous bathtub.

The old kitchen was in to bad condition to keep so they had a new one built on site by local carpenters. The kitchen is painted in off-white and the walls in light grey. The old worktop was replaced with Carrara marble and a French bistro tile with beveled edge was installed.
When the family moved in, there was a huge wood-burning stove with a hot water boiler in the kitchen. This was removed and replaced by a neat 1880s tiled stove with a beautiful crown. It burns from morning to night during the winter months, not only for practical and cost-effective reasons, but also for the pleasant sound and smell to house. When the fireplaces were replaced, a new floor was put in with sturdy pine planks.

The beautiful dining room, added in 1920, is the only addition to the otherwise intact house from the year of construction. There was too little light in here, so Anna and Bo had additional windows installed in the same style as in the rest of the house. It’s hard to believe that the room wasn’t there in the first place, as it blends in so well both inside and out with the rest of the house.

The couple have been consistent throughout, respecting the house and its history when renovating. They have preserved and brought out details that have been there since the year of construction and chosen to decorate walls and treat floors in a timelessly beautiful way. Both Anna and Bo have always been interested in interior design, with the motto “less is more”. They don’t care about trends that come and go.

Bo is interested in chairs from different eras, so over the years there have been a number in the house. Beautiful chandeliers, mirrors and other items from the Jewish era adorn the house and add original character. Music and art are among the family’s interests as one can see. It is a home decorated with a mix of treasured items, old and new, giving a cosy and personal atmosphere. 

Share

On a beautiful winters day, we visited Anna and Bo’s home in Saltsjöbaden. The house is an old turn-of-the-century house in National Romantic style and is situated in the picturesque village by the sea. The family moved here about 25 years ago and are just as happy now as they were then with the house, although the facade was pink and the garden was overgrown and neglected. There was a lot to do, including building a garage and rebuilding a garden shed in to a guesthouse/greenery.

They have carefully tackled one project at a time, slowly restoring the house and garden. After a number of years of the facade being yellow, a couple of years ago they decided to paint it pearl grey instead. The window and door frames and other wooden details are painted white with 10% green umber. Now the house blends into both the greenery and the archipelago environment in a natural way. Details around the beautiful stone foundation such as the door and windows to the basement level have been painted a beautiful dark green.

The living area of the house is about 250 sqm plus attic. The basement floor, which has deep windows and whitewashed walls, has a laundry room, hobby workshop, food cellar and a room for music, exercise and cinema.

The ground floor is the social area of the house with dining room, sitting room, kitchen and hallway. A lot of beautiful windows, generous ceiling height and open spaces separated by sliding and paired doors, provide light and space.

Upstairs, the family has their private area with bedrooms, guest room, study and bathroom. From the upper hallway, a staircase leads up to the beautiful attic room where the grandchildren finds it exciting to play hide & seek.

The previous owners had fortunately kept the floors, doors and other woodwork, so when Anna and Bo moved in, they could easily just make it their own by doing some painting. Now the bathroom has been completely renovated with new French tiles and gorgeous bathtub.

The old kitchen was in to bad condition to keep so they had a new one built on site by local carpenters. The kitchen is painted in off-white and the walls in light grey. The old worktop was replaced with Carrara marble and a French bistro tile with beveled edge was installed.
When the family moved in, there was a huge wood-burning stove with a hot water boiler in the kitchen. This was removed and replaced by a neat 1880s tiled stove with a beautiful crown. It burns from morning to night during the winter months, not only for practical and cost-effective reasons, but also for the pleasant sound and smell to house. When the fireplaces were replaced, a new floor was put in with sturdy pine planks.

The beautiful dining room, added in 1920, is the only addition to the otherwise intact house from the year of construction. There was too little light in here, so Anna and Bo had additional windows installed in the same style as in the rest of the house. It’s hard to believe that the room wasn’t there in the first place, as it blends in so well both inside and out with the rest of the house.

The couple have been consistent throughout, respecting the house and its history when renovating. They have preserved and brought out details that have been there since the year of construction and chosen to decorate walls and treat floors in a timelessly beautiful way. Both Anna and Bo have always been interested in interior design, with the motto “less is more”. They don’t care about trends that come and go.

Bo is interested in chairs from different eras, so over the years there have been a number in the house. Beautiful chandeliers, mirrors and other items from the Jewish era adorn the house and add original character. Music and art are among the family’s interests as one can see. It is a home decorated with a mix of treasured items, old and new, giving a cosy and personal atmosphere.