Eventory
Flowering Mind Portrait Pop Up Studio
บ่ายวันหนึ่ง ที่ Flowering Mind Portrait Pop Up Studio และจุ๊ จุฑารัตน์ พรมุณีสุนทร เมื่อบทสนทนา กับ “ดอกไม้” บอกเล่าความเป็นไปของปัจจุบันในวันที่เราได้มอบดอกไม้ให้ตัวเอง
นึกถึงดอกไม้เมื่อไร สิ่งแรกในห้วงความคิดของคนมากมาย คือ รูปลักษณ์สวยงาม มีสีสัน ซึ่งธรรมชาติรังสรรค์ ทว่า หากใช้เวลากับดอกไม้ตรงหน้าอีกสักนิด เมื่อผ่านมิติทางการมองเห็นด้วย “สายตา” ไปแล้ว “พลังงานจากดอกไม้และคุณค่าที่ส่งผลต่อร่างกายและจิตใจ” กลับนำพาเราไปลึกล้ำได้อย่างน่าประหลาดใจยิ่งกว่า อย่างที่จุ๊ จุฑารัตน์ พรมุณีสุนทร เชื่อว่า “ในเวลาการพบกันระหว่างดอกไม้และผู้คน มีความหมายซ่อนอยู่เสมอ”
จุ๊ จุฑารัตน์ พรมุณีสุนทร ศิลปินช่างภาพพอร์เทรตและแฟชั่น ผู้ก่อตั้ง Flowering Mind หนึ่งใน Contributor ของ Qoqoon ใน INSPO กับการแบ่งปันแรงบันดาลใจที่ได้สัมผัสและเรียนรู้จากแนวคิดการจัดดอกไม้แบบโคริงกะ (Kohrinka) และปรับประยุกต์ขึ้นด้วยมุมมอง ประสบการณ์ ผสานความเชี่ยวชาญในสายงานช่างภาพมืออาชีพ จนเป็นที่มาของกิจกรรมชื่อ Flowering Mind Project เปิดพื้นที่สงบ ปลอดภัย และผ่อนคลาย ให้ผู้คนได้ใช้เวลาเชื่อมโยงกับดอกไม้ ผ่านกิจกรรมในหลายรูปแบบ ที่คิดสร้างสรรค์ขึ้นในแต่ละช่วงเวลา ด้วยความตั้งใจที่อยากส่งต่ออีกมิติหนึ่งเกี่ยวกับ “ความงามที่มีอยู่ในธรรมชาติ” ขยายมุมมองและความหมายของการมองเห็นความงามที่มีผลกับจิตใจ และส่งพลังให้แก่คนได้ไม่สิ้นสุด
และในกิจกรรมครั้งล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ Flowering Mind Portrait Pop Up Studio ชวนทุกคนมา “มอบดอกไม้ให้ตัวเอง” ด้วยกัน ผ่านกระบวนการของกิจกรรมในบรรยากาศสงบ สบาย และผ่อนคลายในพื้นที่สตูดิโอเฉพาะกิจ ที่มีดอกไม้นานาชนิด หลากสีสัน เหมือนสวนกลางสนามสวย สดใส มีโต๊ะและเก้าอี้วางอยู่ที่ริมกำแพง ถัดไป มีฉากหลังสำหรับถ่ายภาพ อยู่ในพื้นที่เดียวกัน และที่ขาดไม่ได้ คือม้านั่งริมกำแพงอีกด้านหนึ่ง ที่เป็นจุดเริ่มต้นของกิจกรรมในครั้งนี้ พร้อมด้วยชาดอกไม้กลิ่นหอม ที่ผู้ร่วมกิจกรรมได้เลือกและลิ้มรสชาอุ่นจัดและบทสนทนาที่เรียบง่าย เป็นการทักทาย ทำความรู้จักกันสำหรับคนที่ได้พบกันครั้งแรก หรือในกลุ่มที่รู้จักคุ้นเคยกันมาอยู่แล้ว
จากนั้น ทุกคนได้เดินเล่น ชมสวนในสตูดิโอ และได้เลือกดอกไม้ ที่แต่ละคนรู้สึกว่า “สื่อสาร” กับตนเองที่สุดในเวลานั้น และได้ใช้เวลาสำรวจดอกไม้ที่เลือก และสังเกตความเป็นไปที่เกิดขึ้นกับตัวเราเองในขณะนั้นไว้ในการ์ดด้วย ถัดมา จุ๊ จึงถ่ายภาพพอร์เทรตของแต่ละคนคู่กับดอกไม้ที่เลือก เพื่อ “บันทึก” ความทรงจำ ความสุขเล็กๆ ระหว่างตัวผู้ร่วมกิจกรรมและธรรมชาติ เอาไว้ใน “ภาพถ่าย” เพื่อเป็นของขวัญแห่งความสุข เป็นที่ระลึกถึงวันเวลาดีๆ ที่มีร่วมกันด้วย
ในระหว่างที่กิจกรรมดำเนินไปโดยมี “ดอกไม้” เป็นสื่อกลาง ทำงานกับร่างกาย หัวใจ ในบรรยากาศรื่นรมย์ ในกระบวนการต่างๆ มีสิ่งเล็กๆ ที่เป็นแถมพกระหว่างทาง อย่างในบทสนทนา ที่เคลื่อนไปตามแต่ละคนจะพูดคุยตอบต่อกันไปโดยอัตโนมัติ กลับมีทั้งคำถามชวนคิด และหลายที ก็ตอบคำถาม ให้ข้อคิด แนวทาง ที่แต่ละคนอาจเก็บเป็นเสบียงชีวิตต่อไปได้
และการได้สำรวจดอกไม้ ได้เห็นความงาม “อย่างเป็นธรรมชาติ” ที่ไม่มีกรอบเกณฑ์ใดกำกับ ไม่จำเป็นต้องชั่ง ตวง วัด แต่เป็นความงามแห่งเนื้อแท้ ที่ไม่เพียงมอบความสุขเบิกบานใจในบ่ายวันนั้น แต่ยังคงส่งพลังจนถึงในเวลาที่เขียนนี้ พลังจากดอกไม้ พลังจากความงดงามแห่งชีวิต และที่สุด คือ “พลัง” เมื่อเราได้สัมผัส รับรู้ และตระหนักถึง “พลังที่มีในตัวเอง” อย่างที่สุด