Editor's Letter
Soulful Sanctuary
เคยไหมที่ในบางครั้ง บางสถานการณ์ในชีวิต มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรือไม่น่าจะเป็นไปได้เกิดขึ้นชนิดที่เราเองไม่อยากจะเชื่อ แม้จะพยายามคิดหาเหตุผลอ้างอิง สร้างสมการต่างๆ นานา ก็ดูจะไม่มีอะไรสมเหตุสมผลเอาเสียเลย จนเมื่อหาอะไรมาตอบสมการชีวิตที่ว่าไม่ได้ ก็ต้องสรุปไปว่าเป็นเรื่องของดวงและโชคชะตา ซึ่งคงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากสำหรับคนไทย เพราะความเชื่อเรื่องโชคลางต่างๆ นั้นมีมาเนิ่นนาน ฝังอยู่ในชิปของบรรพบุรุษที่ถ่ายทอดดาต้ามาสู่รุ่นลูกรุ่นหลานในรูปแบบของประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิต สอดแทรกอยู่ในทุกจังหวะ และทับซ้อนกับมิติของคติทางศาสนาอย่างยากที่จะแยกออกจากกันได้ชัดเจน
คนไทยนั้นจะทำอะไรก็ต้องยึดฤกษ์ยาม ยึดนั่นยึดนี่ หลายคนเป็นเอาหนัก ถึงขั้นที่ทำอะไรต้องพึ่งดวงพึ่งหมอดูไปเสียทุกอย่าง ผมมีเพื่อนบางคนที่เปลี่ยนชื่อนามสกุลตามดวงตามหมอดูเป็นว่าเล่น ราวกับแฟชั่นเสื้อผ้าที่เปลี่ยนไปในทุกซีซั่น โทรศัพท์ก็ต้องเป็นเลขมงคล จะทำงานทำการอะไรก็ต้องผูกดวง ไปจนถึงตระเวณไหว้พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนบานศาลกล่าวไปทั่ว อย่างที่สมัยนี้เขาเรียกกันว่า “สายมู” นั่นแหละ แต่เอาเถิด ถ้ามันไม่ได้ลำบากตนหรือสร้างความเดือดร้อนอะไร ถ้าทำเพื่อความสบายใจก็ไม่ได้เสียหายอะไร
ส่วนตัวผมเองนั้นยอมรับว่าไม่เคยอินกับเรื่องการมูสักเท่าไหร่ เพราะเชื่อในเรื่องผลของการกระทำมากกว่า เมื่อสมัยวัยรุ่นเคยแปะฉลากตัวเองว่าเป็นคนไม่มีศาสนาเสียด้วยซ้ำ ถึงที่บ้านจะเป็นครอบครัวไทยแท้ที่นับถือพุทธ แต่ตัวเองไม่เข้าวัด ไม่ไหว้พระ แถมสมัยทำงานเป็นนักเขียนใหม่ๆ ยังเคยเขียนบทความเรื่องที่ตัวเองเป็นคนนอกรีต ไร้ศาสนา ลงคอลัมน์ในนิตยสารไปอีก จนเมื่อไม่กี่ปีมานี้ มีเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตที่ทำให้หันมาลองศึกษาธรรมะ ทำให้เริ่มหันหน้าเข้าวัดบ้าง ใช้หลักของศาสนาพุทธในการดำเนินชีวิต และเริ่มเปิดประตูให้กว้างขึ้น เพื่อตอบรับความเป็นไปได้ในทุกทาง เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้นว่า ในโลกนี้มันก็ยังมีสิ่งที่หาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้อีกมาก แต่เรายังรู้สึกได้ถึงการมีอยู่ ทุกวันนี้ผมจึงไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ในทุกความเชื่อ และเป็นชาวพุทธที่เอนจอยกับเทศกาลคริสต์มาส ก็อาจจะเหมือนกับ Henri Poincaré นักคณิตศาสตร์ นักทฤษฎีฟิสิกส์ และนักปรัชญาวิทยาศาสตร์ ชาวฝรั่งเศส ที่กล่าวว่า “It is by logic we prove, but it is by intuition we discover” ไม่แน่ว่าสุดท้ายแล้วในอนาคต ไสยศาสตร์กับวิทยาศาสตร์อาจจะกลายเป็นเรื่องเดียวกันก็ได้
ในเรื่องของบ้านและที่อยู่อาศัยเองก็หนีไม่พ้นคติความเชื่อเรื่องโชคลาง ตั้งแต่เริ่มที่จะมีบ้าน นอกจากการออกแบบบ้าน แปลนบ้าน การตกแต่งที่สวยงามและอยู่สบายแล้ว เรื่องของความเป็นสิริมงคลถือเป็นเรื่องสำคัญ ดูได้จากพิธีลงเสาเอก (หรือยกเสาเอก) ที่มีมาแต่โบราณ คนไทยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เพราะเสาเอกคือเสาต้นแรกของบ้านที่ทำหน้าที่สำคัญในการรองรับโครงสร้างบ้านทั้งหมด พิธีมงคลนี้ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี โดยจะเริ่มตั้งแต่เรื่องของฤกษ์ยามที่เหมาะเจาะไปจนถึงเครื่องไหว้เครื่องเซ่นของมงคลต่างๆในพิธี ซึ่งอาจจะมีทั้งพระทั้งพราหมณ์ จะเห็นได้ว่าแทบจะแยกออกจากชีวิตไม่ได้ และไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยเท่านั้น ในวัฒนธรรมเอเชียมีเรื่องของคติความเชื่อหรือศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแทบทั้งนั้น คนจีนจะให้ความสำคัญกับฮวงจุ้ย ซึ่งเป็นศาสตร์โบราณที่ว่าด้วยการอยู่อาศัยให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม เพื่อสร้าง “สมดุล” และ “พลัง” ให้กับบ้านหรือที่อยู่อาศัย ซึ่งในปัจจุบันคนไทยที่ไม่ใช่เชื้อสายจีนรวมไปถึงชาวตะวันตกก็ยึดเอาหลักของฮวงจุ้ยมาใช้ในการวางแปลนและตกแต่งบ้านกันแพร่หลาย ศาสตร์เร้นลับจากตะวันออกในอดีตกลายเป็นเรื่องสามัญในชีวิตประจำวันของโลกตะวันตกยุคปัจจุบันไปแล้ว
สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรื่องของจิตวิญญาณ หรือ Spiritual Living เริ่มแพร่หลาย ก็ต้องยอมรับว่าในทุกวันนี้เราอาศัยอยู่ในโลกที่แสนวุ่นวายยุ่งเหยิง หลายคนต้องการพลังอะไรสักอย่างเพื่อขับเคลื่อนชีวิตที่มากกว่าแค่กำลังกาย เรื่องของ Wellness นั้นไปไกลกว่าแค่เรื่องของสุขภาพกายสุขภาพใจแล้ว มีการนำเรื่องของจิตวิญญาณเข้ามาเป็นอีกส่วนประกอบสำคัญ การออกแบบสถาปัตยกรรมและงานตกแต่งภายในเองก็ต้องคำนึงถึงข้อนี้ด้วย เพราะมีหลายครั้งที่สถาปนิกหรืออินทีเรียดีไซเนอร์มักจะบ่นให้ฟังอยู่เสมอว่าลูกค้าเชื่อซินแสมากกว่าคนออกแบบ เรื่องของความงาม การจัดการสเปซตามหลักการและประโยชน์ใช้สอยกับตำแหน่งฮวงจุ้ยต่างๆ มักจะไม่ค่อยไปทิศทางเดียวกันสักเท่าไหร่
QoQoon ใน volume นี้ เราจึงอยากที่จะนำเสนองานออกแบบที่ตอบสนองต่อความเชื่อในหลากหลายรูปแบบโดยไม่มีข้อจำกัดทางศาสนา เราไม่ได้จะเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณหรือโยดาของใคร หรือจะชวนใครไปมู แต่เราอยากชักชวนทุกคนให้มาค้นหาจุดสมดุลระหว่างจิตวิญญาณภายใน กับเรื่องของความงามและประโยชน์ใช้สอยของงานออกแบบซึ่งเป็นเรื่องของภายนอก เราคุ้นเคยแต่กับการใช้ตรรกะและเหตุผลในการดำรงชีวิต จนอาจจะลืมไปว่าเรามีสัญชาตญาณการรับรู้ที่ลึกซึ้งกว่านั้น และเชื่อมโยงทุกสัมผัสของเราเข้ากับจินตนาการและจิตวิญญาณภายใน ซึ่งเป็นด้านที่จะช่วยจูนชีวิตให้เข้าที่เข้าทาง ซึ่งสุดท้ายแล้วจุดสมดุลที่ว่าจะอยู่ตรงไหน ก็ขึ้นอยู่กับเราเองว่าอะไรคือสิ่งที่ตอบสมการชีวิต ที่จะก่อร่างเป็นอาณาจักรส่วนตัวที่อยู่สบายทั้งกายและใจ
Wachirapanee Whisky Markdee
Editor In Chief
Photos: Denis Oliveira