The Table Is Set
And The Oven Is Hot

“เรื่องกินเรื่องใหญ่” เป็นคำพูดที่ทุกคนล้วนต้องเคยได้ยิน และปฏิเสธไม่ได้เสียด้วยสิว่ามันจริง เพราะการกินเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิต อาหารเป็นปัจจัยสี่ที่ขาดไม่ได้ เพราะไอ้สามปัจจัยที่เหลือมันยังพอกล้อมแกล้ม ไม่มีก็พอไหว ไม่ตายทันที แต่ไม่มีกินนี่คือตายสถานเดียว ซึ่งนอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งของกลไกของร่างกายตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตแล้ว การกินยังได้พัฒนาและมีวิวัฒนาการกลายเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง และยังเป็นเครื่องสะท้อนสภาพสังคม บอกเล่า และส่งต่อผ่านยุคสมัยมาควบคู่กับประวัติศาสตร์มนุษยชาติ 

การกินอาหารร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของความเจริญในทุกวัฒนธรรม เป็นจุดเชื่อมและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในสังคม หลายเรื่องราวสำคัญในสังคมล้วนมีจุดเริ่มต้นบนโต๊ะอาหาร ทั้งการบ้าน การเมือง การมุ้ง เรื่องเล่าเม้ามอย ไปจนถึงเรื่องสัปดี้สัปดน ที่ถึงผู้ใหญ่จะสอนว่าอย่าเล่าเรื่องตลกสกปรกบนโต๊ะอาหาร แต่พออยู่กับกลุ่มเพื่อน หลายครั้งบทสนทนาก็ลามเลยไปถึงไหนๆ เพิ่มรสชาติอาหารให้เผ็ดร้อนแซบซ่าเข้าไปอีก นึกถึงซีรีส์ดังในอดีตอย่าง Sex And The City ที่สี่สาวตัวเอกในเรื่องจะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทัศนคติและมุมมองเรื่องชีวิตรัก เซ็กส์ และหน้าที่การงานสู่กันฟัง จนมาถึง And Just Like That.. ซีรีส์ภาคต่อที่ถึงแม้ว่าจะไม่มีซามานธา โจนส์ แล้ว แต่ตัวละครที่เหลือก็ยังมีเรื่องเม้าวนเวียนอยู่บนโต๊ะอาหารนั่นแหละ แต่ถ้าจะเอาให้ชัดก็คงเป็นละครโทรทัศน์ไทยนั่นเองที่ฉายภาพนี้ออกมาได้ชัดเจนที่สุด เราทุกคนโตมากับฉากของบทสนทนาบนโต๊ะอาหารในทีวี นั่นเป็นเพราะว่าวัฒนธรรมเอเชีย โดยเฉพาะไทยเราให้ความสำคัญกับสังคมและการอยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ ต้องรับประทานอาหารกันพร้อมหน้า เมื่อทุกคนมาล้อมวงรวมกัน เรื่องราวบันเทิงทั้งหลายจึงบังเกิด

แต่เรื่องของอาหารนั้น ไม่ได้มีแค่เรื่องของการกิน ความสำคัญของอาหารมีอยู่ในทุกกระบวนขั้น ตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบ ปรุงอาหาร การจัดสำรับเสิร์ฟ จนไปจบลงที่การกิน และความอิ่มเอมที่ตามมา ซึ่งจะเห็นได้ว่าเริ่มกันมาตั้งแต่อยู่ในครัว ห้องครัวจึงนับว่าเป็นส่วนสำคัญอันดับต้นของบ้าน และหลายบ้านก็ยกความสำคัญให้เป็นอันดับหนึ่ง อาจจะยกเว้นก็คงคนที่อาศัยอยู่ตัวคนเดียวที่ไม่ค่อยได้ทำอาหารหรือบ้านที่ไม่มีสมาชิกในครอบครัวที่ทำกับข้าวเป็น แต่เชื่อว่าก็ยังเป็นส่วนน้อย จึงมีคำกล่าวที่ว่า “ครัวคือหัวใจของบ้าน” อาหารระดับมิชลินที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่ากับข้าวที่แม่เราทำ อาหารบางอย่างทำให้นึกถึงตอนเด็กๆ ที่เคยเข้าครัวเป็นลูกมือแม่ ปอกหอมปอกกระเทียม เด็ดผัก หั่นพริก ปอกหอมจนแสบตา ไปจนถึงลองจับกระทะตะหลิวหัดปรุงอาหารจริงๆจังๆ หลายบ้านมีสูตรอาหารเป็นของตัวเอง แต่บ้านเรานั้นไม่มีเมนูพิสดาร อาหารแต่ละจานนั้นก็มีแต่อาหารพื้นๆ แต่พอโตมาแล้วก็หาอาหารพื้นๆอร่อยๆแบบที่แม่เคยทำให้กินไม่ได้

เมื่อพูดถึงเรื่องตำหรับอาหารเฉพาะของแต่ละบ้าน ก็เป็นที่น่าสังเกตว่าทุกวันนี้หลายคนหรือหลายร้าน ได้นำเอาสิ่งนี้มาสร้างสตอรี่ให้กับอาหารของตัว เมนูอาหารบางร้านอ่านแล้วอย่างกับอ่านนิยายสักเรื่อง มีสตอรี่ที่มาต่างๆนานา พิสดารก็มาก…เออ ก็สนุกดี จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง เราก็ไม่อาจรู้ได้ (แต่บางทีก็แอบรู้มาว่าไม่จริง) แต่ท้ายสุดแล้ว รสชาติอาหารนั่นแหละที่จะเป็นตัวบอกว่าอะไรเป็นอะไร เรื่องราวที่มาจะยาวเป็นมหากาพย์อย่างไง ถ้าไม่อร่อยก็คือจบ

สำหรับผมแล้วการทำอาหารเป็นอีกช่วงเวลาที่เพลิดเพลิน ตั้งแต่ตอนเตรียมวัตถุดิบ ปรุง จัดจานให้สวยงาม เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็ก จนถึงตอนนี้เพิ่มอีกกระบวนการหนึ่งขึ้นมา คือการถ่ายรูปแชะแล้วโพสต์ลงโซเชียล แฮปปี้! แต่จะไม่แฮปปี้ก็ตอนล้างนี่แหละ เพราะเป็นคนใช้ภาชนะในการประกอบอาหารเปลืองมาก อย่างกับรายการคุกกิ้งโชว์ งานล้างก็เลยดูจะเป็นงานที่หนักหน่อย และไม่ค่อยจะเอ็นจอยเท่าไหร่ แต่จะเอนจอยมากขึ้นถ้ามีเครื่องครัวอุปกรณ์สวยๆในการทำอาหาร บางทีแค่ไปเดินอยู่แผนกเครื่องครัวเดินดูอุปกรณ์สวยๆก็เพลินแล้ว ด้วยความที่ชอบทำอาหารด้วยเครื่องครัวที่เป็นเครื่องครัวจริงๆ ครัวที่บ้านจึงไม่ค่อยมีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆมากมาย เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีก็แค่หม้อหุงข้าวกับเครื่องปิ้งขนมปัง เป็นบ้านที่ไม่มีเตาอบไมโครเวฟ จะอุ่นกับข้าวอะไรก็ต้องอุ่นด้วยภาชนะที่ประกอบอาหารชนิดนั้นๆ เพื่อให้ได้รสชาติของอาหารนั้นจริงๆ อีกอย่างภาชนะอุปกรณ์ดีไซน์สวยเวลาจับเวลาใช้ มันให้ความรู้สึกจริงจังและเป็นอาหารที่จริงใจกว่าออกมาจากเตาอบไมโครเวฟหรือหม้อทอดไร้น้ำมัน

เพราะเรื่องกินสำคัญอย่างนี้ QoQoon ฉบับนี้จึงจัดสำหรับตั้งโต๊ะ เสิร์ฟคอนเท้นต์เกี่ยวกับเรื่องของการกิน ที่ทั้งกินเล่นและกินจริงกินจัง ตั้งแต่เรื่องราวของของบ้านแสนอบอุ่นให้ให้ความสำคัญกับห้องครัวเป็นพิเศษ ไอเดียการตกแต่งห้องครัวไปจนถึงรวบรวมอุปกรณ์เครื่องครัวดีไซน์สวยหน้าใช้มาให้เลือกชมเลือกซื้อไปเพิ่มสุนทรียะในการปรุงอาหาร และยังมีเรื่องราวของรสชาติอาหารในความทรงจำวัยเยาว์ ที่เราจะพาย้อนรอยไปชิมอีกครั้งว่าจะยังอร่อยเหมือนเดิมหรือเปล่า

ตั้งโต๊ะพร้อมเสิร์ฟแล้วขนาดนี้ ก็คลิกเข้าไปชิมกันได้เลย  

Wachirapanee Whisky Markdee
Editor In Chief