สีสันของอาหารนั้นสามารถกระตุ้นและส่งผลต่อความอยากอาหารของมนุษย์โดยตรง ถึงแม้ว่าสีจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับรสชาติก็ตาม กล่าวคือมนุษย์เรามีแนวโน้มที่จะรู้สึกว่าอาหารที่มีสีโทนอบอุ่นนั้นน่ากินกว่าอาหารสีโทนเย็น ตัวอย่างเช่น อาหารที่มีสีแดงนั้นส่งผลทำให้คนรู้สึกหิว อาหารสีส้มสามารถดึงดูดความสนใจ ในขณะเดียวกันอาหารสีเขียวก็ให้ความรู้สึกสดชื่น อย่างไรก็ตามในระยะหลังมานี้ได้มีเฉดสีหนึ่งที่เข้ามาเป็นกระแสนิยมในวงการอาหารอย่างแทบจะไม่น่าเป็นไปได้ เพราะสีนั้นคือสีดำซึ่งเป็นสีที่พบไม่บ่อยนักในเหล่าบรรดาวัตถุดิบที่คนเรามักจะนำมาใช้ในการประกอบอาหาร
QoQoon ได้เชิญชวนเชฟแอน อังคณา เอี่ยมสอาด แห่งร้านบ้านดาหลา บาย อังคณา เชฟผู้เชี่ยวชาญอาหารไทยและเครื่องปรุงสมุนไพรท้องถิ่น ให้มาเป็นผู้สร้างสรรค์เมนูอาหารสำหรับฉบับ Black Beauty นี้โดยที่มีโจทย์ให้เป็นอาหารที่มีสีดำล้วน จะว่าเป็นเมนูสำหรับฮัลโลวีนก็ไม่เชิง เพราะถึงแม้หน้าตาของทุกจานจะเป็นสีดำมืดมิด หากแต่รสชาติแต่ละจานอร่อยล้ำหลายรสหลายดีกรี ไม่แพ้อาหารหลากสีหลากเฉดที่เราคุ้นชินกันดี
ปลาหมึกในซอสพริกไทยหมึกดำ
- ปลาหมึกขนาดเล็ก 200 กรัม
- ซอสหมึกปลาหมึกดำ 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
- พริกแห้ง 1 ชิ้น
- กระเทียม 4 กลีบ
- โหระพา 20 ใบ
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 6 ชิ้น
- ครีม 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ทำความสะอาดปลาหมึกและซับน้ำออกให้แห้ง
- ทำซอสหมึกดำโดยการปั่นกระเทียม เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ใบโหระพา พริกไทยดำ เกลือ และน้ำมันมะกอก
- ตั้งกระทะให้ร้อนแล้วใส่ซอสหมึกดำ
- ใส่ปลาหมึกที่เตรียมไว้
- ทำให้สุกประมาณ 4 นาที
- รอจนซอสข้นขึ้น แล้วตักเสิร์ฟสำหรับ 3-4 ที่
พาสต้าคาโบนาร่าครีมหมึกดำ
- หมึกดำ 1 ช้อนโต๊ะ
- ครีม 1/2 ถ้วย
- หัวหอม 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม 1/2 ช้อนโต๊ะ
- เบคอน 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- พริกไทยดำ 1/2 ช้อนชา
- พาสต้าสุก 150 กรัม
- น้ำมันมะกอก
- ตั้งกระทะให้ร้อนแล้วใส่น้ำมันมะกอกและเบคอนลงผัด
- ใส่กระเทียมและหัวหอมลงไปผัด
- ใส่หมึกดำและครีม
- ใส่เกลือ
- ใส่พาสต้าที่ปรุงสุก และ พริกไทยดำ ลงไปผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ตักเสิร์ฟสำหรับ 1 ที่
ข้าวผัดปู (สี) ดำ
- ข้าวสุก1 ถ้วย
- ไข่1 ฟอง
- เนื้อปู 60 กรัม
- หมึกดำ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล
- เกลือ
- น้ำมัน
- ตั้งกระทะให้ร้อนด้วยไฟแรงแล้วใส่น้ำมันลงในกระทะ
- ใส่หมึกดำในไข่แล้วคนให้เข้ากัน
- ใส่ไข่ลงไปผัดในกระทะประมาณ 15 วินาที แล้วใส่ข้าวลงไป
- ใส่หมึกดำและเนื้อปู
- ผัดส่วนผสมทั้งหมดกับข้าวให้เข้ากัน
- ตักขึ้นเสิร์ฟสำหรับ 1 ที่
กะหรี่พัฟดำ
- ผงถ่าน 1 ช้อนชา
- แป้งสาลี 2 ถ้วย
- น้ำมัน 1/3 ถ้วย
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำ 150 กรัม
- แป้งทำขนม 1 ถ้วย
- น้ำมัน 1/3 ถ้วย
- เนื้อไก่ 100 กรัม
- มันฝรั่ง 100 กรัม
- ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
- หัวหอม 2 ช้อนโต๊ะ
- ผงแกงเหลือง
- พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
- น้ำมันสำหรับทอด
- ทำแป้ง 2 ส่วน แป้งด้านนอก และ แป้งด้านใน
- ทำแป้งด้านนอกก่อน โดยการผสมแป้งสาลี เกลือ ผงถ่าน น้ำมัน และน้ำให้เข้ากันแล้วนวด ทิ้งไว้ 30 นาที
- ทำแป้งด้านใน โดยการผสมแป้งทำขนม ผงถ่าน และน้ำมัน จากนั้นนวดจนเข้ากันดี
- แบ่งแป้งออกเป็น 8 ส่วน
- โรยแป้งด้านนอกให้เป็นรูปกลมแบนแล้วห่อแป้งด้านใน
- หั่นมันฝรั่งเป็นชิ้นเล็ก (1×1 ซม.)
- หั่นเนื้อไก่ (ส่วนไหนก็ได้) เป็นชิ้นเล็ก (ขนาดเดียวกับมันฝรั่ง)
- ล้างมันฝรั่งจนกว่าน้ำจะใสและซับหรือผึ่งให้แห้ง
- ตั้งน้ำมันให้ร้อนแล้วใส่หัวหอม ผัดจนใสแบบ caramelised
- ใส่ไก่และมันฝรั่ง
- ใส่ซอสหอยนางรม ซอสถั่วเหลือง น้ำตาล และผงแกงเหลือง
- ปรุงจนทุกอย่างแห้ง
- โรยแป้งคู่แล้วใส่ไส้ข้างใน
- ห่อให้แน่นแล้วการม้วนขอบแป้งจับจีบหลังจากห่อเพื่อให้แน่ใจว่าแป้งจะไม่ขาดขณะทอด
- นำลงทอดในน้ำมันที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 5 นาที
- ตักขึ้นเสิร์ฟได้ 8 ชิ้น
ขนมเปียกปูนอ่อน
- น้ำตาลมะพร้าว 180 กรัม
- แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
- เกลือ
- ผงถ่านมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ
- กะทิ 50 กรัม
- เกล็ดมะพร้าว 2 ช้อนชา
- น้ำมะนาว 700 กรัม
- ผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลมะพร้าว และเกลือ กับผงถ่านมะพร้าว
- เติมน้ำมะนาวและคนให้เข้ากัน
- ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในกระทะและตั้งบนไฟปานกลาง
- คนส่วนผสมให้เข้ากันจนเนื้อสัมผัสเป็นพุดดิ้ง
- นำส่วนผสมมาหยอดในภาชนะ เสิร์ฟพร้อมไอศกรีม
About The Chef
เชฟแอน อังคณา เอี่ยมสอาด สาวพงัน ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจอาหารจากวิทยาลัยดุสิตธานี ได้ฝึกฝนตัวเองในโลกการทำอาหารและเข้าร่วมงานอาหารต่างๆ ทั่วประเทศไทย โดยผสมผสานความรู้และความหลงใหลของเธอ นำเทคนิคการทำอาหารที่ดีที่สุดของทั้งอาหารเอเชียและตะวันตกมาสร้างสรรค์เมนูอาหารที่สะท้อนตัวตนของเธอที่เติบโตมาในวัฒนธรรมไทย-จีน และใช้ชีวิต ทำธุรกิจร้านอาหารในสหรัฐอเมริกาอยู่ช่วงหนึ่ง
Creative Director: Whisky Markdee
Styling: Ekarin Yusuksomboon
Photos: Chakkapan Imaree
Story: Titima C.