Art & Lifestyle

Monsoon Foraging

“Without Rain,There would be no life.”
จินตนาการหน้าฝนถูกถ่ายทอดสู่การเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ และชีวิตใหม่เสมอ

วัตถุดิบเลือกสรรจากแหล่งที่มา ไข่จากฟาร์มส่วนตัวของคุณแพรี่พาย
วัตถุดิบเลือกสรรจากแหล่งที่มา ไข่จากฟาร์มส่วนตัวของคุณแพรี่พาย
วัตถุดิบเลือกสรรจากแหล่งที่มา ไข่จากฟาร์มส่วนตัวของคุณแพรี่พาย
วัตถุดิบเลือกสรรจากแหล่งที่มา ไข่จากฟาร์มส่วนตัวของคุณแพรี่พาย
เช่นเดียวกับ อมตา จิตตะเสนีย์ หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ แพรี่พาย (PEARYPIE) ที่ครั้งหนึ่งเธอคือเมคอัพอาร์ติสต์ชื่อดัง ทว่าวันนี้เธอเปลี่ยนไตเติ้ลตัวเองมาเป็น Rooftop Farmer เนรมิตสวนลอยฟ้าขนาดกำลังดีบนคอนโดมีเนียมที่พักอาศัยในซอยสุขุมวิท 30 ท่ามกลางตึกระฟ้าที่ตั้งตระหง่านกลางย่านสุขุมวิทของกรุงเทพฯ แพรี่พายมีความสุขและสนุกทุกครั้งที่ได้บอกเล่าเรื่องราวของสวนกินได้แห่งนี้ ที่ว่ากันว่าแต่ละฤดูกาลความสวยงามไม่เหมือนกัน เพราะจะมีพืชพันธุ์ผลัดเปลี่ยนมาอวดโฉม รสชาติและกลิ่นหอมที่ต่างกัน “ฤดูฝน จะเน้นไปที่พวกใบเขียว การกินยอดใบ เช่น ยอดมัน ยอดมะระ ยอดฟัก ถั่ว น้ำเต้า กระเจี๊ยบเขียวแดงขาว ใบกระเจี๊ยบเปรี้ยว ไม่ได้บีบบังคับให้พืชออกผลในแบบที่เราต้องการ แต่ปล่อยให้เค้าเติบโตในแบบธรรมชาติ ตามแต่ฤดูกาล”

เช้านี้เรามีนัดกับ แพรี่พาย เธอพาเราเดินชมสวนดาดฟ้าที่เธอออกแบบและใช้เวลาทะนุถนอมสร้างมันขึ้นมา “เริ่มต้นในช่วงโควิดพอดี ตึกออกแบบมาเพื่อเป็นสวนบนชั้นดาดฟ้า ตั้งใจว่าด้านบนจะเป็นสวนประดับให้ลูกบ้าน เป็นกรีนสเปซเล็กๆ ของคอนโด พอถึงเวลาจริงๆ ไม่อยากทำสวนประดับ เพราะมันกินไม่ได้ จึงไม่ปลูกไม้ประดับ แต่ปลูกพืชที่ใช้ในครัวเรือน เช่นผักสวนครัว ทั้งปลูกพืชที่ให้สีด้วย เพราะยังชอบศิลปะ อย่าง สีของคำแสด เอาไปย้อมผ้า ใส่อาหาร ทำสีลิปสติกได้ แล้วก็มีดอกไม้กินได้ ดอกไม้โบราณ เป็นนิเวศที่จำลองพื้นที่เชียงดาวในกรุงเทพเป็นของตัวเอง ด้วยความที่เราชอบเชียงดาวมาก เวลาเราไปเยี่ยมเกษตรกร เราจะได้เมล็ดพันธุ์พื้นบ้าน เวลาเดินตลาด จะเก็บมาทดลองปลูก ทำให้ได้ความหลากหลายที่อาจจะหาไม่ได้ตามท้องตลาด” นอกจากการได้พืชผักสวนครัวสำหรับทำอาหาร และได้สีสันจากพืชธรรมชาติสำหรับทำงานศิลปะแล้ว แพรี่พายยังได้สิ่งอื่นๆ ตามมาด้วย “เราได้เห็นการเติบโต ตั้งแต่เมล็ด ต้นกล้า ดอก ผล จนกลับกลายเป็นปุ๋ยอีกครั้งหนึ่ง เป็น Circle of Life ในมุมหนึ่งของกรีนสเปซ เราได้เพิ่มพื้นที่ให้กับครอบครัวของเราด้วย พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ให้คนได้เรียนรู้ด้วย ทำ Collaboration ด้วยเป็นพื้นที่ที่มากกว่าการปลูกผักกินที่บ้าน”

เช้านี้เรามีนัดกับ แพรี่พาย เธอพาเราเดินชมสวนดาดฟ้าที่เธอออกแบบและใช้เวลาทะนุถนอมสร้างมันขึ้นมา “เริ่มต้นในช่วงโควิดพอดี ตึกออกแบบมาเพื่อเป็นสวนบนชั้นดาดฟ้า ตั้งใจว่าด้านบนจะเป็นสวนประดับให้ลูกบ้าน เป็นกรีนสเปซเล็กๆ ของคอนโด พอถึงเวลาจริงๆ ไม่อยากทำสวนประดับ เพราะมันกินไม่ได้ จึงไม่ปลูกไม้ประดับ แต่ปลูกพืชที่ใช้ในครัวเรือน เช่นผักสวนครัว ทั้งปลูกพืชที่ให้สีด้วย

คุณอมตา จิตตะเสนีย์ หรือแพรี่พาย (PEARYPIE)
คุณอมตา จิตตะเสนีย์ หรือแพรี่พาย (PEARYPIE)
เพราะยังชอบศิลปะ อย่าง สีของคำแสด เอาไปย้อมผ้า ใส่อาหาร ทำสีลิปสติกได้ แล้วก็มีดอกไม้กินได้ ดอกไม้โบราณ เป็นนิเวศที่จำลองพื้นที่เชียงดาวในกรุงเทพเป็นของตัวเอง ด้วยความที่เราชอบเชียงดาวมาก เวลาเราไปเยี่ยมเกษตรกร เราจะได้เมล็ดพันธุ์พื้นบ้าน เวลาเดินตลาด จะเก็บมาทดลองปลูก ทำให้ได้ความหลากหลายที่อาจจะหาไม่ได้ตามท้องตลาด” นอกจากการได้พืชผักสวนครัวสำหรับทำอาหาร และได้สีสันจากพืชธรรมชาติสำหรับทำงานศิลปะแล้ว แพรี่พายยังได้สิ่งอื่นๆ ตามมาด้วย “เราได้เห็นการเติบโต ตั้งแต่เมล็ด ต้นกล้า ดอก ผล จนกลับกลายเป็นปุ๋ยอีกครั้งหนึ่ง เป็น Circle of Life ในมุมหนึ่งของกรีนสเปซ เราได้เพิ่มพื้นที่ให้กับครอบครัวของเราด้วย พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ให้คนได้เรียนรู้ด้วย ทำ Collaboration ด้วยเป็นพื้นที่ที่มากกว่าการปลูกผักกินที่บ้าน”
กลีบดอกบัว เกสรดอกบัว และเม็ดบัว จากสระบัวปลูกธรรมชาติ
กลีบดอกบัว เกสรดอกบัว และเม็ดบัว จากสระบัวปลูกธรรมชาติ

นอกจากการเป็น Rooftop Farmer เต็มเวลาที่กรุงเทพฯแล้ว แพรี่พายยังมี เชียงดาวคลาสรูม ที่เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่การเรียนรู้ฤดูต่างๆ ในเมืองไทย ผ่านการเดินทางไปยังชุมชนต่างๆ เช่น ชาวปกาเกอะญอ ชุมชนที่เข้มแข็งในเรื่องการรักษาระเบียบชีวิตดั้งเดิมได้อย่างเหนียวแน่น หรือการไปเยี่ยมเยือนพื้นที่ของหมู่บ้านที่ต้นนำ แพสชั่นอีกเรื่องหนึ่งของเธอคือการเดินทางไปทั่วทุกภาคของไทยเพื่อไปชมการทอผ้าและย้อมผ้าไทย “แล้วแต่เราสนใจบทเรียนไหน เช่นไปสกลนคร เพราะสนใจเรื่องคราม ระบบนิเวศที่ผู้คนกลุ่มหนึ่งกำลังปกป้อง” การเดินทางลงลึกถึงชุมชนและเข้าไปศึกษาพื้นป่า สำรวจดิน สำรวจพันธุ์ไม้ ทำให้สวนดาดฟ้าของเธอเป็นการจำลองนิเวศแบบป่าจริงๆ “นอกจาก ความภูมิใจ อาหารสะอาดปลอดภัยแล้ว ยังรวมไปถึงความมั่นคงทางอาหาร ด้วย มันได้หลายมิติ เป็นการหยิบจับเรื่องที่รอบตัวให้มันสนุก ครีเอทีฟ มีสีสัน”

นอกจากการเป็น Rooftop Farmer เต็มเวลาที่กรุงเทพฯแล้ว แพรี่พายยังมี เชียงดาวคลาสรูม ที่เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่การเรียนรู้ฤดูต่างๆ ในเมืองไทย ผ่านการเดินทางไปยังชุมชนต่างๆ เช่น ชาวปกาเกอะญอ ชุมชนที่เข้มแข็งในเรื่องการรักษาระเบียบชีวิตดั้งเดิมได้อย่างเหนียวแน่น หรือการไปเยี่ยมเยือนพื้นที่ของหมู่บ้านที่ต้นนำ แพสชั่นอีกเรื่องหนึ่งของเธอคือการเดินทางไปทั่วทุกภาคของไทยเพื่อไปชมการทอผ้าและย้อมผ้าไทย
Foraging table setting ด้วยจานชาม blue and white
Foraging table setting ด้วยจานชาม blue and white

“แล้วแต่เราสนใจบทเรียนไหน เช่นไปสกลนคร เพราะสนใจเรื่องคราม ระบบนิเวศที่ผู้คนกลุ่มหนึ่งกำลังปกป้อง” การเดินทางลงลึกถึงชุมชนและเข้าไปศึกษาพื้นป่า สำรวจดิน สำรวจพันธุ์ไม้ ทำให้สวนดาดฟ้าของเธอเป็นการจำลองนิเวศแบบป่าจริงๆ “นอกจาก ความภูมิใจ อาหารสะอาดปลอดภัยแล้ว ยังรวมไปถึงความมั่นคงทางอาหาร ด้วย มันได้หลายมิติ เป็นการหยิบจับเรื่องที่รอบตัวให้มันสนุก ครีเอทีฟ มีสีสัน”

มาลัยทำมือ เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยการเริ่มต้นเรียนรู้สิ่งใหม่และการอยู่กับปัจจุบัน
มาลัยทำมือ เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยการเริ่มต้นเรียนรู้สิ่งใหม่และการอยู่กับปัจจุบัน

จากสวนดาดฟ้าใจกลางกรุง ในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ แพรี่พาย จะนำเอาสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำงานระหว่างธรรมชาติ ชุมชน และตัวเอง ผ่านพืชผักและสมุนไพรสวนครัวจากสวนดาดฟ้า ที่เก็บเกี่ยวได้ในช่วงฤดูฝนมาเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารกับ เฟี่ยว ธาริณี เกรแฮม (Tarini Graham) อาร์ติสต์อีกคนหนึ่งที่หันมาสนใจเรื่องอาหารยาอย่างจริงจัง ด้วยการศึกษาตำรับยาจากวังในอยุธยาเข้ากับการทำอาหารคลีน (Clean Food) และ รอว์ฟู้ด (Raw and Living Food) เป็นสำรับที่เรียกว่า Monsoon Foraging

คุณเฟี่ยว ธาริณี เกรแฮม (Tarini Graham)
คุณเฟี่ยว ธาริณี เกรแฮม (Tarini Graham)

“ธรรมชาติเป็นหีบสมบัติของเรา การที่เราผูกพันกับธรรมชาติ ธรรมชาติก็ให้เรากลับคืนมามากมาย การที่เราออกแบบกับข้าวตามฤดู ก็คือการเชื่อมโยงกับธรรมชาติในช่วงขณะหนึ่ง ทุกครั้งที่กินจะมาปลุกสติ ด้วยกลิ่น ด้วยรสชาติ และความรู้สึก ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันผูกพันกับจิตใจ ปลุกความสร้างสรรค์ ความมีชีวิตจิตใจ”

หัวใจสำคัญของ อาหารยา คือขั้นตอนการทำที่ละเอียดอ่อน สมาธิและสติที่ใส่ลงไปในทุกขั้นตอน
หัวใจสำคัญของ อาหารยา คือขั้นตอนการทำที่ละเอียดอ่อน สมาธิและสติที่ใส่ลงไปในทุกขั้นตอน
หัวใจสำคัญของ อาหารยา คือขั้นตอนการทำที่ละเอียดอ่อน สมาธิและสติที่ใส่ลงไปในทุกขั้นตอน
หัวใจสำคัญของ อาหารยา คือขั้นตอนการทำที่ละเอียดอ่อน สมาธิและสติที่ใส่ลงไปในทุกขั้นตอน
โดยสำรับในครั้งนี้เฟี่ยวใช้ชื่อว่า “House Of Sa-Wang” ในภาษาไทยคือ บ้านของนายสว่าง หรืออีกความหมายหนึ่งคือ บ้านที่จะช่วยปลุกความเปล่งประกายจากภายในสู่ภายนอก เฟี่ยวนำเอาความรู้และความรักในการทำงาน บวกกับธุรกิจของเธอ คือการเป็นพาร์ทเนอร์ธุรกิจเคเทอริ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของบาหลี เนรมิตสำรับอาหารที่ผ่านการออกแบบอย่างถี่ถ้วน อย่างเช่น The 4 Suns คือเมล่อนทรัฟเฟิลที่ปรุงรสอย่างเรียบง่ายด้วยพริก ตาลโตนด เม็ดมะละกอ และมะนาว, Enhance To The World Homage คอร์สนี้เป็นเครื่องจิ้มที่ปรุงด้วยมะม่วงหิมพานต์และบีตรู้ททานคล้ายกับชัตนีย์, Life Force เต้าหู้แบบญี่ปุ่นปรุงกับเลนทิล ซอสญี่ปุ่น และน้ำมันพริกเขียว, Immune Booster คีนิว เทมเป้ ยำกับมะเขือยาวปรุงรสด้วยสมุนไพรหลากหลายและ poached egg
โดยสำรับในครั้งนี้เฟี่ยวใช้ชื่อว่า “House Of Sa-Wang” ในภาษาไทยคือ บ้านของนายสว่าง หรืออีกความหมายหนึ่งคือ บ้านที่จะช่วยปลุกความเปล่งประกายจากภายในสู่ภายนอก เฟี่ยวนำเอาความรู้และความรักในการทำงาน บวกกับธุรกิจของเธอ คือการเป็นพาร์ทเนอร์ธุรกิจเคเทอริ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของบาหลี เนรมิตสำรับอาหารที่ผ่านการออกแบบอย่างถี่ถ้วน อย่างเช่น The 4 Suns คือเมล่อนทรัฟเฟิลที่ปรุงรสอย่างเรียบง่ายด้วยพริก ตาลโตนด เม็ดมะละกอ และมะนาว,
The 4 Suns คือเมล่อนทรัฟเฟิ้ลที่ปรุงรสอย่างเรียบง่ายด้วยพริก ตาลโตนด เม็ดมะละกอ และมะนาว
The 4 Suns คือเมล่อนทรัฟเฟิ้ลที่ปรุงรสอย่างเรียบง่ายด้วยพริก ตาลโตนด เม็ดมะละกอ และมะนาว

Enhance To The World Homage คอร์สนี้เป็นเครื่องจิ้มที่ปรุงด้วยมะม่วงหิมพานต์และบีตรู้ททานคล้ายกับชัตนีย์, Life Force เต้าหู้แบบญี่ปุ่นปรุงกับเลนทิล ซอสญี่ปุ่น และน้ำมันพริกเขียว, Immune Booster คีนิว เทมเป้ ยำกับมะเขือยาวปรุงรสด้วยสมุนไพรหลากหลายและ poached egg

Immune Booster คีนิว เทมเป้ยำกับมะเขือยาวปรุงรสด้วยสมุนไพรหลากหลายและ poached egg
Immune Booster คีนิว เทมเป้ยำกับมะเขือยาวปรุงรสด้วยสมุนไพรหลากหลายและ poached egg
ส่วน Nourishment จะเป็นข้าวต้ม Kichdi สูตรอายุรเวช ปรุงด้วยการดองข้าวก่ำและเคี่ยวอย่างพิถีพิถัน ทานพร้อมกับปลากระพงอบใบบัวสด เกสรบัวเจียว และมะรุม ผัดผักสวนครัว และเครื่องดอง Calm Energizer ไอศกรีมงาดำกับสับปะรดย่างและขิงกรอบ
Nourishment จะเป็นข้าวต้ม Kichdi สูตรอายุรเวช ปรุงด้วยการดองข้าวกล่ำ และเคี่ยวอย่างพิถีพิถัน ทานพร้อมกับปลากระพงอบใบบัวสด เกสรบัวเจียว และมะรุม ผัดผักสวนครัว และเครื่องดอง
Nourishment จะเป็นข้าวต้ม Kichdi สูตรอายุรเวช ปรุงด้วยการดองข้าวกล่ำ และเคี่ยวอย่างพิถีพิถัน ทานพร้อมกับปลากระพงอบใบบัวสด เกสรบัวเจียว และมะรุม ผัดผักสวนครัว และเครื่องดอง
Nourishment จะเป็นข้าวต้ม Kichdi สูตรอายุรเวช ปรุงด้วยการดองข้าวกล่ำ และเคี่ยวอย่างพิถีพิถัน ทานพร้อมกับปลากระพงอบใบบัวสด เกสรบัวเจียว และมะรุม ผัดผักสวนครัว และเครื่องดอง
Nourishment จะเป็นข้าวต้ม Kichdi สูตรอายุรเวช ปรุงด้วยการดองข้าวกล่ำ และเคี่ยวอย่างพิถีพิถัน ทานพร้อมกับปลากระพงอบใบบัวสด เกสรบัวเจียว และมะรุม ผัดผักสวนครัว และเครื่องดอง
ประสบการณ์ลันช์พิเศษนี้เอก ศรัณญ อยู่คงดี ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์เครื่องประดับ Art-To-Wear ‘SARRAN’ จะร่วมออกแบบชาสมุนไพรจากสวนของแพรี่พาย และความรู้ในการอบร่ำไทยแบบโบราณ เป็นชาแก้วสำคัญในการนำมาทุกท่านเข้าสู่การ manifest the feast ไปพร้อมๆกัน
ประสบการณ์ลันช์พิเศษนี้เอก ศรัณญ อยู่คงดี ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์เครื่องประดับ Art-To-Wear ‘SARRAN’ จะร่วมออกแบบชาสมุนไพรจากสวนของแพรี่พาย และความรู้ในการอบร่ำไทยแบบโบราณ
ปรุงน้ำอบร่ำดอกไม้โบราณ ปลุกสัมผัสแห่งการตื่นรู้
ปรุงน้ำอบร่ำดอกไม้โบราณ ปลุกสัมผัสแห่งการตื่นรู้
เป็นชาแก้วสำคัญในการนำมาทุกท่านเข้าสู่การ manifest the feast ไปพร้อมๆกัน
ชุดภาชนะ Blue and White ค็อลเล็กชั่นส่วนตัวของ คุณศรัณญ อยู่คงดี ที่นำมาใช้ในการจัดอาหาร
ชุดภาชนะ Blue and White ค็อลเล็กชั่นส่วนตัวของ คุณศรัณญ อยู่คงดี ที่นำมาใช้ในการจัดอาหาร
“นอกจากอร่อย ยังมีเรื่องราวแฝงปรัชญาในรสชาติเยอะมาก ตั้งแต่มื้อแรกที่ผมได้กินอาหารของเฟี่ยว ผมเรียนรู้การกินถั่วที่เพิ่งงอก แบบ Living Food เรากำลังรับพลังชีวิตของเขามาต่อชีวิตเรา ปรัชญาการทำอาหารของเฟี่ยว คือการเลือกสรรวัตถุดิบจากแหล่งธรรมชาติที่มีการปรุงดินอย่างมีภูมิปัญญา ความเป็นสวนสมุนไพรไทยผสมกับการทำอาหารที่หลากหลายเทคนิค นอกจากความตื่นเต้นผ่านรสชาติและปลายลิ้น มันชวนให้ตั้งคำถามว่าปัจจุบันเรากำลังกินอะไรกันอยู่ ประสบการณ์ครั้งนี้จะเป็นการตั้งคำถามให้เรากับการรับประทานอาหารมื้อต่อไปว่า เราต้องการอะไรมากไปกว่า อิ่ม อร่อย และถ่ายภาพสวย”

House Of Sa-Wang
Monsoon Foraging Chef’s Table
By TARINI, PEARYPIE, SARRAN
Curated by Ekarin Yusuksomboon
9-10 กันยายน 2565
ณ MRMH Studio ปากซอยอรุณอมรินทร์ 23
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0873244619
หรือ Line ID : ekarinstyling

Story: Ekarin Yusuksomboon
Photos: Pipat Chamrat

Share

Khun Pearypie, once a renowned makeup artist, has transformed herself into a Rooftop Farmer, creating a garden on top of a condominium in the residential lane of Sukhumvit 30, amidst the towering skyscrapers in the Sukhumvit district of Bangkok.

In addition to growing different types of vegetables for cooking in each season and using natural plants for art, the nursery also offers other things “We have seen the growth from seeds to seedlings, flowers, fruits, and then back to fertilizer as the Circle of Life in one corner of the greenspace. We have also expanded the space for our family. This space provides people with the opportunity to learn and collaborate, more than just growing vegetables for home consumption”.

Apart from being a full-time rooftop farmer in Bangkok, PearyPie also travels to various communities and studying the forest, exploring the soil, and examining plant species. This makes her rooftop garden a real-life simulation of a forest environment. “In addition to pride and clean, safe food, it also involves food security and many dimensions. It is a way to grasp the surrounding elements and make it fun, creative, and colorful”.

In the beginning of September, PearyPie will bring what she has learned from working in nature, communities, and herself through vegetables and herbs from the rooftop garden. These ingredients, harvested during the rainy season, will be used to create dishes with Tarini Graham, another artist who has a genuine interest in medicinal food. Their menu, called Monsoon Foraging, combines recipes from the Ayutthaya Palace with clean food and raw and living food. “Nature is our treasure trove. As we connect with nature, it gives us so much in return. Designing dishes according to the seasons is a way of reconnecting with nature. Every time we eat, it awakens our senses – the smell, the taste, and the feeling – all of which are deeply connected to our inner selves, inspiring creativity and fostering a vibrant spirit,” says Tarini. This menu is named “House Of Sa-Wang” in Thai, which means “the house that illuminates from within.”

In this unique experience, Sarran Youkongdee, a designer and owner of the jewelry brand Art-To-Wear ‘SARRAN’, will collaborate to design a herbal tea using herbs from PearyPie’s garden and traditional Thai fragrance knowledge. This very important glass of tea will be used to bring everyone together to manifest the feast. “Besides the excitement through taste and palate, it prompts us to question what we are currently eating. This experience will be a question for us when we consume our next meal, asking what we want more than just being full, tasty, and capturing beautiful pictures”.